ลืมบอกไปอย่างนึงครับ คือว่ายังมีอาการเย็นบริเวณหน้าอกด้วยครับ ถ้าพูดตามความรู้สึกก็เย็นปอดแล้วผมเพิ่งไปแ๊ดวัคซีน โรคคอตีบ เมื่อวัน ศุกร์ ที่ 9 มา เพื่อเป็นประโยชน์ได้บ้างครับ

อาการที่คุณเป็น (ไม่น่าเกี่ยวกับวัคซีนโรคคอตีบเพราะประมาณ 10 วันมาแล้ว) อาจเกิดจากมีการติดเชื้อทางเดินหายใจชนิดไม่รุนแรง เพราะเป็นช่วงอากาศเปลี่ยน หรือบางครั้งอาจร่วมกับความเครียด ความกังวลได้ แนะนำคุณพักผ่อนให้เพียงพอ รักษาความอบอุ่นของร่างกาย ดื่มน้ำสะอาดให้ได้วันละ 8-10 แก้ว กินอาหารมีประโยชน์ 5 หมู่ให้ครบถ้วนในทุกวัน หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด ถ้าไม่มีไข้ก็ควรออกกำลังกายตามควรกับสุขภาพ

แต่ถ้ามีไข้ ไอมากขึ้น มีเสมหะสีเขียว หรือเหลือง เจ็บหน้าอก อ่อนเพลีย และ/หรือหายใจเหนื่อย ซึ่งแสดงว่ามีการติดเชื้อรุนแรงของทางเดินหายใจ ก็ควรพบแพทย์ เป็นแพทย์ทั่วไปได้คะ

พญ. พวงทอง ไกรพิบูลย์

ตอนนี้กลับมาจาก โรงพยาบาลแล้วครับคุณหมอ ประมาณรคืนวันที่ 18 ระหว่างขับรถย์ มอเตอร์ไซท์ ไปรับแฟน รู้สึกว่าหหายใจได้ลำบากมาก จนรู้สึกกังวล จังได้เข้ารับการรักษาที่โรงบาลโดยส่วนตัวแล้วไม่สูบบุหรี่เลยไม่คิดว่าจะเป็นอาการจากปอดแต่อย่างได้เลยเข้ารับการตรวจอย่างละเอียก โดยได้เข้า X-Ray ปอด ตรวจคลื่นหัวใจ และ ต่อมไทรอย ก็ปกติดีทั่งหมด แพทประจำไข้ได้สัณนิทานว่าอาจเกิดจากโรคเลือด พาราซิเมี่ยและโรคกรดไหลย้อน โดยตัวเองผมเองมีเม็ดเลือดที่ เล็กกว่าปกติ และมีจำนวนเลือดแดงน้อยกว่า คนทั่วไป จึงนัดรับผลตรวจเลือดอีกทีในวันที่ 27 พ.ย ที่จะถึงนี้ แต่ที่ผมกังวลก็คือกลับมาที่บ้านแล้วก็ยังมีอาการแบบเดิม ซึ่งโดยสวนตัวแล้ว ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายแต่อย่างใดจึงอยากจะทราบว่ายังพอมีโรคอื่นที่นอกเหนือจากนี้ที่พอจะเป็นได้ไหมครับคุณพอเพราะเวลาขับรถย์จักรยานยน หายใจลำบากมาก

ปล.ตรวจโรคหอบหืดแล้วก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด

แล้วถ้าเกิดอาการอย่างที่คุณหมอ บอก ควรทำอย่างไรครับ ถ้าเป็นการติดเชื่อทางเดินหายใจชนิดไม่รุนแรง

มีวิธการบรรเทา หรือวิธีการรักษาอย่างไรบ้างครับ

โรคติดเชื้อทางเดินหายใจที่ไม่รุนแรง มักเกิดจากการติดเชื้อไวรัส ซึ่งร่างกายจะสามารถสร้างภูมิคุ้มกันต้านทานเชื้อเหล่านี้ได้และจะกำจัดเชื้อเหล่านี้ให้หมดไปได้ใน 3-4 วัน ดังนั้นการดูแลตนเอง คือ การทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันต้านทานโรคที่ดี คือ พักผ่อนให้เพียงพอ รักษาร่างกายให้อบอุ่น ไม่ไปในที่แออัด ไม่คลุกคลีกับคนป่วยอื่นๆ ใช้หน้ากากอนามัยเสมอ กินอาหารมีประโยชน์ 5 หมู่ให้ครบถ้วนในทุกวัน เคลื่อนไหวร่างกายตามควรกับสุขภาพ ป้องกันไม่ให้เกิดภาวะขาดน้ำโดยดื่มน้ำสะอาดให้ได้อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว(เมื่อไม่เคยมีโรคที่แพทย์แนะนำให้จำกัดน้ำดื่ม เช่น โรคหัวใจวาย เป็นต้น) ร่วมกับการรักษาสุขภาพจิต ไม่กังวลเกินเหตุ เพราะความเครียด ความกังวล ความกลัวจนเกินเหตุ เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ภูมิคุ้มกันต้านทานโรคของร่างกายลดลง ที่ง่ายๆก็คือ การรักษาสุขอนามัยพื้นฐาน (สุขบัญญัติแห่งชาติ)

แต่ถ้าคุณดูแลตนเองแล้ว อาการไม่หายไปใน 3-4 วัน หรือมีอาการผิดปกติอื่นๆที่ได้ตอบคุณไปแล้วในครั้งแรก ก็ควรพบแพทย์เพื่อการตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุว่าเกิดจากติดเชื้อไวรัสชนิดรุนแรง หรือติดเชื้อแบคทีเรียไหม แต่ถ้าอาการเลวลง ก็ควรรีบพบแพทย์ได้เลย ไม่ต้องรอจนถึง 3-4 วันคะ

พญ. พวงทอง ไกรพิบูลย์

ขอบคุณ คุณหมอมากๆครับ