กระดานสุขภาพ

โรคข้ออักเสบ
Anonymous

7 พฤศจิกายน 2555 10:27:17 #1

สวัสดีครับคุณหมอ ผมมีเรื่องอยากปรึกษาเกี่ยวกับอาการข้ออักเสบครับ เริ่มต้นประมาณ 2 เดือนกว่าๆที่แล้วผมมีอาการปวดบริเวณข้อไหล่ และ สะบักมากครับ ปวดหลังด้วยและบางทีก็มีอาการชาที่แขนและขาเล็กน้อย แต่อาการดังกล่าวเป็นมานานและบ่อยครับ คาดว่าอาจจะเกิดจากทำงานกับคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ อาการเจ็บมากๆดังกล่าวทุเลาลงจากการใช้ยา Counterpain เป็นเวลา 2-3 วันครับ แต่ก็มีอาการคลื่นไส้บ้าง ปวดท้องบ้าง ( ผมเคยพบแพทย์ด้วยอาการกรดไหลย้อนเมื่อ 4 ปีแล้ว แต่ก็มีกำเริบบ้าง ) คราวนี้เริ่มมีอาการเจ็บตามข้อนิ้่วบริเวณโคนนิ้วครับ เป็นซ้ายบ้างขวาบ้างสลับกัน และรู้สึกข้อแข็งฝืดๆ ปวดคอ และ เข่าบ้างเล็กน้อยครับ บางครั้งก็เจ็บข้อศอก ข้อเท้า และ ไหล่ แต่อาการดังกล่าวเป็นไม่หนักครับ ยังทำงานได้ปกติ เพียงแต่หงุดหงิดเล็กๆ

ด้วยความที่ผมทำงานอยู่ต่างจังหวัด และ ห่างจากตัวเมืองมากๆ เลยค่อนข้างกังวลว่าจะมีอะไรร้ายแรงหรือเปล่าเช่นมะเร็งเป็นต้น เลยมาตรวจร่างกายที่ ร.พ.เอกชนในกทม. เมื่อประมาณ กลางเดือนตุลาคม ผลเลือด, ปัสสาวะ และ Chest X-Ray คุณหมอบอกว่า ดีทุกอย่างปกติทุกอย่าง ซึ่งผมก็คุยกับคุณหมอที่ตรวจร่างกายครับว่า ผมกลัวมะเร็งมาก เพราะคุณพ่อคุณแม่ก็เป็นมะเร็งทั้งคู่เลย หมอท่านบอกว่าผมวิตกเกินเหตุ + เครียด

คราวนี้อีกสองอาทิตย์ต่อมา ก็ยังเจ็บตามข้ออยู่ครับ เมื่อต้นเดือน พ.ย. ที่ผ่านมาพบกับคุณหมอศัลยกรรมกระดูกและข้อ แต่คุณหมอตรวจสภาพร่างกายเบื้องต้นบอกไม่พบอาการบวม แดง เลยแนะนำให้มาพบแพทย์ทางด้านรูมาโต ครับ คุณหมอรูมาโต (ขออภัยถ้าพูดผิดนะครับ) ซักถามอาการ และ ให้ทำการเจาะเลือด เพื่อดู Factor บางอย่าง + X-Ray กระดูกเชิงกราน ซึ่งผมต้องกลับมาทำงานต่อแล้ว คุณหมอเลยนัดมาตรวจอาการอีกรอบ ปลายๆเดือนนี้ (ผมจะกลับไป กทม. ได้อีกทีช่วงนั้น) ผมถามคุณหมออีกว่าใช่มะเร็งมั๊ย แต่คุณหมอบอก ไม่น่าจะใช่ครับ

ซึ่งคุณหมอพูดสันนิษฐานเบื้องต้นว่าอาจจะเป็นโรคข้ออักเสบสะเก็ดเงิน แต่ไม่ฟันธง เพราะโรคนี้ใช้เวลาวินิจฉัยนานพอสมควร เพราะต้องแยกในกลุ่ม รูมาตอยด์, SLE, เก๊าท์ และจ่ายยาชื่อว่า Celebrex มาครับ ให้ทานวันละเม็ดหลังอาหารเช้า ซึ่งผมทานมาได้ 6 วันแล้ว อาการปวดเหมือนจะไม่ลดลง แต่ ความถี่ในการปวดอักเสบลดลงครับ แต่ยังคงปวดมาก ในช่วงตื่นนอน และ มีเจ็บๆในข้อบางส่วนบ้าง

แต่ล่าสุดผมรู้สึกมึนๆหัว และ เจ็บบริเวณแถวๆโหนกแก้มร้าวมาทางจมูกครับ เจ็บประมาณปวดล้า ไม่ได้เจ็บมากนะครับ ก็เลยยังคงกังวลอยู่ว่า จะมีโรคอะไรร้ายแรงแทรกซ้อนหรือไม่ และยังมีอะไรที่ผมต้องตรวจหรือ ถามคุณหมอที่รักษาอยู่เพิ่มเติมหรือเปล่าครับ หรือ ผมควรต้องตรวจอะไรเพิ่มครับ เพราะคนในครอบครัวผมไม่มีใครเป็นโรคนี้ และยังทำงานไกลบ้านด้วย แล้วผมยังไม่ทราบต้องรับมืออย่างไรเหมือนกัน รบกวนคุณหมอช่วยให้คำแนะนำด้วยนะครับ ขอบพระคุณคุณหมอมากๆนะครับ

ป.ล. ผมอายุ 30 ปีครับ

อายุ: 30 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 70 กก. ส่วนสูง: 173ซม. ดัชนีมวลกาย : 23.39 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ พญ. พวงทอง ไกรพิบูลย์

(วว.รังสีรักษา และเวชศาสตร์นิวเคลียร์)

8 พฤศจิกายน 2555 08:27:18 #2

อายุ 30 ปี ยังไม่ต้องกังวลเรื่องโรคมะเร็งคะ เพราะโรคมะเร็งเป็นโรคของคนอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป อายุต่ำกว่านี้พบได้น้อยมากๆ และอาการของคุณไม่ใช่อาการของโรคมะเร็งคะ

คุณดูแลตนเองด้านร่างกายได้ถูกต้องแล้ว เหลือแต่ต้องดูแลด้านจิตใจให้เข็มแข็ง ไม่ควรกังวลหวาดกลัวจนเกินไป รอปลายเดือนที่คุณจะเข้ามาตรวจร่างกายเพิ่มเติม ซึ่งแพทย์ที่ดูแลคุณจะบอกเองว่า จำเป็นต้องตรวจอะไรเพิ่มอีกหรือไม่ ระหว่างนี้ ควรพยายามปรับตัวโดยใช้งานคอมพิวเตอร์อย่างถูกวิธี อาจช่วยให้อาการต่างๆดีขึ้นทันตาเห็นก็ได้ ร่วมกับการออกกำลังกายทุกวัน กินอาหารมีประโยชน์ 5 หมู่ให้ครบทุกวัน และเข้าสังคมพอควร

แต่ถ้ากังวลมากจนกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันและการทำงาน ก็ควรลางานเพื่อการดูแลตนเอง โดยเข้ามาพบแพทย์ให้จริงจังซัก 1-2 สัปดาห์ จะดีกว่าคะ

 

พญ. พวงทอง ไกรพิบูลย์

Anonymous

8 พฤศจิกายน 2555 10:09:45 #3

ขอบพระคุณคุณหมอมากๆนะครับสำหรับคำตอบ ได้ฟังคุณหมอแล้วรู้สึกสบายใจขึ้นมากครับ ตอนนี้ ก็พยายามทำตัวให้ปกติ และ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ แต่ก็จะไม่ประมาทครับ ถ้าหากมีอะไรผิดปกติ ก็คงจะพบคุณหมอจริงจังดีกว่า ขอขอบคุณคุณหมออีกครั้งครับ

Anonymous

16 พฤศจิกายน 2555 09:09:51 #4

สวัสดีครับคุณหมอ ต้องขอรบกวนคุณหมออีกครั้งนะครับ จากที่คุณหมอกรุณาตอบคำถามเมื่อสัปดาห์แล้ว อาการปวดข้อเบาบางลงครับ และ ความถี่ในการปวดก็ลดน้อยลงครับ คิดว่าน่าจะเป็นผลมาจากยา Celebrex

แต่วันพฤหัส (วันที่ 15 พ.ย. 2555 ) พบว่ามีผื่นแดงเม็ดขนาดจิ๋วขึ้นที่แขนซ้ายครับ กระจาย และมีจำนวนราวๆ รวมกันไม่ถึง 10 เม็ดมีอาการคันเล็กน้อยครับ และวันศุกร์ ที่ 16 พ.ย. ค่อยๆยุบ แต่ยังคงเหลือแผลเป็นนิดหน่อยครับ แต่อีกทีคือมือซ้ายครับ เหมือนมีจุดแดงๆใต้ฝ่ามือซ้ายครับ กระจายกัน วันพฤหัสที่ 15 ยังคงเห็นชัดครับ แต่ วันที่ 16 เห็นไม่ค่อยชัดแล้ว แต่อาการอื่นไม่มีนะครับ จะมีก็ปวดศีรษะ และ ปวดบริเวณโหนกแก้ม ในตอนเช้าเล็กน้อย

ตอนนี้อยู่ต่างจังหวัดไกลๆครับ แต่เนื่องจากมีแพลนจะไปพบคุณหมอวันพฤหัสที่ 22 ที่กทม.ซึ่งต้องรออีก 1 สัปดาห์เลยไม่แน่ใจว่า มีอาการอะไรที่ต้องซีเรียสหรือกังวลหรือป่าวครับ เพราะส่วนตัวเห็นผื่นแดง แล้วไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ แต่ก็ไม่สามารถมาพบแพทย์ก่อนกำหนดได้ครับ อยากขอคำแนะนำจากคุณหมอครับว่าควรต้องปฏิบัติตัวอย่างไร

ขอขอบพระคุณคุณหมออีกครั้งนะครับ

ศาสตราจารย์เกียรติคุณ พญ. พวงทอง ไกรพิบูลย์

(วว.รังสีรักษา และเวชศาสตร์นิวเคลียร์)

16 พฤศจิกายน 2555 11:48:39 #5

อาการทั้งหมดของคุณตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงที่เล่ามา เข้าได้กับโรคออโตอิมมูน/โรคภูมิต้านตนเอง แนะนำคุณอ่านบทความเรื่อง โรคออโตอิมมูน ในเว็บ haamor.com เพื่อการดูแลตนเองในเบื้องต้นก่อน

อย่างไรก็ตาม การขึ้นผื่นอาจเป็นได้ทั้ง อาการของโรคออโตอิมูน หรือ แพ้สิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือ อาจเป็นผลข้างเคียงจากยา celebrex ได้ ซึ่งเป็นผลข้างเคียงที่พบได้น้อยมาก

คุณควรพบ แพทย์ พยาบาล หรือ เภสัชกร ที่พอหาได้ในละแวกที่คุณอยู่ ช่วยตรวจให้ก่อนจะดีกว่าคะ

แต่ถ้าไม่มีท่านเหล่านั้นจริงๆ น่าจะหยุดยา celebrex ก่อน และใช้ยาพาราเซตามอลเมื่อปวดแทน จนกว่าจะพบแพทย์ หรือพยาบาล หรือ เภสัชกร และถ้ามีกล้องถ่ายรูป ควรถ่ายภาพผื่นไว้ด้วย เพื่อเมื่อพบแพทย์ (กรณีผื่นยุบไปหมดแล้ว) แพทย์จะได้วินิจฉัยสาเหตุของผื่นได้ถูกต้อง

คุณควรลางานอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพื่อการตรวจหาสาเหตุของอาการของคุณอย่างจริง ให้วินิจฉัยโรคให้ได้ก่อน เพื่อการรักษาที่เหมาะสม ถึงสมควรจะกลับไปทำงานต่อคะ

บรรณานุกรม

http://arthritis.emedtv.com/celebrex/celebrex-precautions-and-warnings.html [2012, Nov16].

 

พญ. พวงทอง ไกรพิบูลย์

Anonymous

16 พฤศจิกายน 2555 14:09:13 #6

ขอบพระคุณมากครับคุณหมอสำหรับคำแนะนำครับ และจะปฏิบัติตามครับ ในเบื้องต้นผมคงจะหยุดยา Celebrex ชั่วคราวก่อน แล้วรอผลวินิจฉัยจากคุณหมอเฉพาะทางที่ กทม. ในสัปดาห์หน้าครับ