กระดานสุขภาพ

อาการปวดท้อง อาเจียน ฉี่สีส้ม และบางครั้งมีไข้ ตามมาค่ะ
Kans*****e

2 พฤษภาคม 2557 19:24:55 #1

ขออนุญาติ เล่าละเอียดนิดนึงนะคะ รบกวนคุณหมอช่วยพิจารณาด้วย จากประสบการณ์
คือแต่ก่อน อายุ 30 เนี่ย ก็เคยเป็นอาการคล้ายอาหารเป็นพิษ(คิดเอง)แบบนี้มา 2-3 ครั้งแล้ว แต่มีเพียง ปวดท้อง(บางครั้งก็ท้องร่วง)และอาเจียน เท่านั้น
แต่พอ อายุ30 ขึ้นมา(ตอนนี้32) โดยเฉพาะ ระยะ 2 ปี หลังนี้ ครั้งที่เป็นจนตกใจ คือ ตกใจที่ฉี่เป็นสีส้มออกขุ่นค่ะ อาการตอนนั้นคือ ทีแรกปวดท้องปวดมากๆปวดบิด แนวแกนท้องเหมือนปวดเข้าห้องน้ำแต่ไม่ตุงๆที่ก้นเหมือนอยากเข้านะคะ ยืนก็ไม่หายนั่งก็ไม่หาย พูดแทบไม่ได้ หายใจยังไม่มีแรง ไม่มีท้องร่วงออกจะท้องผูกด้วยซ้ำ จากนั้นก็กินยาธาตุ/ยาหอมห้าเจดีย์ ซักพักใหญ่ๆก็อ้วกหลังอ้วกก็หายปวดท้องแต่พอตกดึกช่วงนอนพักฟื้นก็ตัวสั่นเป็นไข้ต่อ จากนั้นฉี่ก็เริ่มเป็นสีส้มราวๆ2-3วันก็หายเป็นปกติแต่ฉี่ส้มอยู่ เลยผวาเรื่องฉี่ส้ม
ก็เลยไปหาหมอที่รพ.(ในวันที่3 ที่อาการปวดท้องและไข้หายแล้วแต่ฉี่ยังส้มนะคะ) หมอคลำกดท้อง แหกตา ถามเรื่องมีเพศสัมพันธ์รึเปล่า(ไม่เคยมีโสดสนิทค่ะ) หมอบอกว่า ไม่น่าใช่โรคกระเพาะ ตา-ตัวก็ไม่เหลือง แต่ฉี่ส้มใช่ไหม หมอเลยให้ ตรวจฉี่และเลือดค่ะ ในวันนั้นหมอให้ ยาแก้อาเจียน และยาลดกรด กลับบ้านค่ะ

จากนั้นอีก 1 วัน ฉี่ส้มก็หายแล้วนะคะ (เริ่มจางหลังวันที่หาหมอ)แต่ก็ยังกินยาที่หมอให้ไปเรื่อย ๆ
จากนั้นอีกราวๆ2-3วันวันฟังผล หมอบอกว่าเป็นไวรัสตับอักเสบ แต่ไม่มีเชื้ออะไร(ดูจากเน็ต เดาเองว่าหมอคงหมายถึงพวกเชื้อA-B-C) จากนั้นหมอให้ ยาบำรุงตับมากินราวๆ 1 อาทิตย์ แล้วบอกว่าให้มาใหม่ และหมอย้ำ มากๆ ให้งดการทำอะไรหนักเหนื่อยๆ(ซึ่งจริงๆนอกจากนอนดึกตี4-5แล้วก็แทบไม่ได้ทำอะไรเลยค่ะ) และให้งดของมันและเผ็ด

จากนั้น 1 อาทิตย์ ก็มาใหม่ ตรวจฉี่เลือดอีกครั้ง หมอก็บอกว่าหายสนิทแล้ว หมอไม่นัดแล้วนะ แต่ให้ ยาบำรุงตับไปกิน 1 เดือน แต่ก็ไม่เป็นอะไรแล้ว(หมอบอก)

จากนั้น 1-2 เดือน ก็ยังคงเป็นอีกค่ะ อาการเดิม

อาการโดยรวม เป็นสเตป คือ
1. ปวดท้องก่อน ปวดมากๆ บริเวณ เหนือสะดือ ทั้งแถบเลย ปวดปะมาณ 10-15นาที หรือบางทีก็ มากกว่า 6 ชม.ไปเลย แล้วแต่ว่า จะอ้วกตอนไหน มีครั้ง ปวดข้ามวันไปเลย แต่ ปวดน้อยมากสลับกัน เลยพออยู่ได้
2. หลังปวดท้อง จะพะอืดพะอม พักใหญ่ แล้วเมื่ออ้วก ปวดท้องจะหาย ก็อาศัยกิน ยาธาตุกับยาหอม นั่นแหละค่ะ มันกินแล้วก็อ้วกออกมาเอง
3. หลังอ้วกบางครั้งจะมีไข้ บางครั้งก็ไม่มีไข้
4. ในช่วงระยะนี้ จากที่เป็นถึงหาย จะฉี่ สีเหลืองเข้มและส้ม ติดกัน ราวๆ 2-3 วัน จนหายไข้ ก็จะเป็นฉี่สีปกติ

รวมๆอาการ ที่เป็น จะมาเยี่ยม 2-3เดือน ครั้ง แต่เดือน นี้เป็น 2 ครั้ง
เป็นแต่ละครั้งก็จดไว้ด้วยนะคะ คือ ช่วง 2 ปีล่าสุดนี้ มันมีทั้งปวดเฉยๆ ปวดอ้วกมีไข้ กับฉี่เหลือง สลับๆกันไปน่ะค่ะ รวมๆ 2 ปี เป็นราวๆ 6 ครั้งได้แล้วค่ะ(ไม่ตื่นตูมใช่ไหมคะ)

เรื่อง อาหารที่กิน ก่อนปวดท้องนี่ เท่าที่จำได้นะคะ มันไม่จำแนกประเภทเลย ตอนกินจืด กินหวาน กินเผ็ด กินเปรี้ยว มันก็ปวดได้หมด เหมือนแล้วแต่อารมณ์
ก่อนปวดบ่อยครั้งก็มีอาการท้องผูกก่อนด้วยค่ะ แต่ท้องผูกเป็นเรื่องปกติของตัวเราค่ะ คือไม่ได้ ถ่ายทุกวันแค่คร่าวๆ อาทิตย์ละ 4 ครั้งนะคะ
ดิฉันไม่ทานเหล้า ไม่สูบบุหรี่นะคะ แต่ลงพุงใหญ่มาก 42-44 นิ้ว

อยากถามคุณหมอว่า
- อาการ ทั้งหมดนี้ มันเป็นอะไรคะ เป็นวี่แววเริ่มแรก หรือเสี่ยง ของโรคอะไร หรือเปล่า
- มันจะโชคดี ที่เป็นแค่ อาหารเป็นพิษ หรือเป็นกระเพาะรึเปล่าคะ
- ประวัติครอบครัว มีแม่และพี่สาว ที่เป็นโรค มะเร็งปีกมดลูก และ ไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายด้วยค่ะ
- เมื่อ พค.56 ตรวจสุขภาพ ทั่วไปแล้ว ตับไตหัวใจ หมอบอกว่าทุกอย่างปกตินะคะ (แต่ตั้ง1ปีแล้วนี่นา)
- หากต้องไปหาหมออีกครั้ง ควรบอกหมอเกี่ยวกับอาการโดยรวมว่าอย่างไรดีคะให้ถูกจุด (ในสถาการณ์จริงไม่สามารถบอกหมอได้โดยละเอียดขนาดนี้) และเพราะตอนนั้นหมอบอกหายแล้วแต่ยังเป็นอยู่ เหมือนรักษาแค่ฉี่ส้ม แต่ยัง โรคปวดท้องยังอยู่น่ะค่ะ (รู้สึกท้อแท้)

ขอบพระคุณที่อ่านนะคะ ขออภัยที่ยาวมาก
ด้วยความเคารพ
คานศรี 3พค57

อายุ: 32 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 73 กก. ส่วนสูง: 165ซม. ดัชนีมวลกาย : 26.81 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ พญ. พวงทอง ไกรพิบูลย์

(วว.รังสีรักษา และเวชศาสตร์นิวเคลียร์)

4 พฤษภาคม 2557 05:04:47 #2

ขอตอบคุณเป็นข้อๆตามคำถามนะคะ

  1. ไม่สามารถตอบคุณได้ว่า อาการที่คุณเล่ามาทั้งหมด น่ามีสาเหตุจากอะไร แต่ไม่ว่าจะเป็นโรคอะไร ก็จัดว่าเป็นโรคเรื้อรัง เพราะเป็นๆหายๆ มาตั้งแต่ อายุ 30 ปีแล้ว การวินิจฉัยโรคของคุณ แพทย์ต้องตรวจร่างกาย ตรวจปัสสาวะ ตรวจเลือด และอาจต้องตรวจภาพอวัยวะที่แพทย์สงสัยว่าเป็นสาเหตุ เช่น อัลตราซาวด์ภาพตับ
  2. ตอบไม่ได้อีกเช่นกันว่า ใช่อาหารเป็นพิษ หรือ โรคกระเพาะหรือเปล่า
  3. อาการคุณไม่น่าสัมพันธ์กับประวัติโรคในครอบครัว
  4. เมื่อตรวจตอนไม่มีอาการ ผลอาจปกติได้ ครั้งต่อไป ถ้ามีอาการ ควรรีบพบแพทย์ จะได้การวินิจฉัยที่ถูกต้องกว่า ถึงแม้จะพบแพทย์ตรวจอยู่ก่อนแล้วหรือแพทย์บอกว่าหายแล้ว ก็ควรพบแพทย์ก่อนนัด หรือพบแพทย์ สรุป คือ ควรต้องพบแพทย์ช่วงมีอาการ
  5. เมื่อไปพบแพทย์ ควรแจ้งแพทย์ว่า คุณมีอาการปัสสาวะสีเข้ม ปวดท้องตอนบน อาเจียน และมีไข้เป็นบางครั้ง อาการเหล่านี้ เป็นๆหายๆมาประมาณ 2 ปีแล้ว
  6. การที่หมอบอกคุณว่า หายแล้ว หมายถึง บอกว่า โรคขณะนั้นหายแล้ว แต่โรคหลายชนิด กลับเป็นอีกได้เสมอ ดังนั้นโรคที่หายแล้ว เมื่อกลับมามีอาการอีก ก็ต้องพบแพทย์อีกคะ

พญ. พวงทอง ไกรพิบูลย์

Kans*****e

4 พฤษภาคม 2557 10:50:19 #3

ขอบคุณคุณหมอมากค่ะ

ต่อไปถ้าเป็นอีก จะรีบไปตอนเป็นค่ะ :)