กระดานสุขภาพ

ช่วยด้วยครับ เกิดแผลบริเวณปลายองคชาต ด้านในใต้หนังหุ้ม
Anonymous

6 เมษายน 2557 14:54:58 #1

เรียน คุณหมอครับ (นพ. อนุพงศ์)

ด้วยผมเคยทำตัวไม่ดีมาก่อน แล้วเมื่อประมาณ ปี 50 ก็ได้คบกับแฟน(ชาย)นะครับ หลังจากนั้นก็อยู่ด้วยกัน บ้านเดียวกัน ตัวติดกันตลอด แต่พอ วันที่ 5 ก.ย. 56 ผม รู้สึกว่าร่างกายแย่ลง เลยเข้าไปตรวจที่กรมควบคุมโรค ที่ 9 ตอนนั้น จะตรวจแบบเร่งด่วน แต่ จนท.ก็ไหนๆก็อยากตรวจก็ตรวจแบบละเอียด (อยากจะบอกว่า กว่าจะกล้าเดินเข้าได้ นอนไม่หลับมา 2 วัน เพราะกลัว แจ๊ตพอต แตก) ก็เลยเจาะเลือด ตรวจ HIV กับ ซิฟิลิส ไหนๆก็เอาแฟนมาด้วย ก็เลย ลากไปตรวจทั้ง 2 คนเจาะเสร็จก็นอนไม่หลับอีก 3 วัน เพราะรอผล มันลุ้นสุดๆครับ และแล้ว

-ผล non reactive ทั้งคู่ (จนท. น่ารักอยากให้ทุกคนกล้าเดินเข้าไป) ท่านบอกว่า 5-6 ปี ที่ผ่านมาไม่เคยเปลี่ยนคู่นอน และผลออกมาแบบนี้ ก็สบายใจได้

ถาม: ผลที่ผมได้รับ น่าจะวางใจได้ใช่ไหมครับ

 

นั่น คือ ที่ผมได้ผ่านมา แต่ตอนนี้ ผมได้เกิด แผล ดังนี้ครับ 

1. เกิดตุ่มแดง แล้ว คลายจะแตกออก เหมือนแผลร้อนใน ไม่ค่อยเจ็บ แต่ถ้าโดนน้ำจะแสบ ไม่มีหนอง ไม่มีเลือดออก

2. มีอาการปวดตุบๆ ที่บริเวณแผลบางครั้ง 

3. ถ้าล้างน้ำสะอาด เช็ดและเป่าแผลให้แห้ง เวลาลูบแผลแทบไม่มีรอยนูน 

4. รอยแผลเหมือนผิวหนังโดนกัดบางๆ แดงๆ

มันเป็นๆหายๆ ใช้เวลาประมาณ 1 อาทิตย์ก็หาย แล้วก็จะกลับมาเป็นใหม่ บริเวณรอยเดิม เป็น มาสัก 5-6 ครั้ง

คุณหมอช่วยผมหน่อยครับ เครียดมาก

http://haamor.com/media/images/webboardpics/543be-11543-1.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/543be-11543-2.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/543be-11543-3.jpg

อายุ: 30 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 68 กก. ส่วนสูง: 170ซม. ดัชนีมวลกาย : 23.53 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ พญ. พวงทอง ไกรพิบูลย์

(วว.รังสีรักษา และเวชศาสตร์นิวเคลียร์)

6 เมษายน 2557 16:30:29 #2

เรียน ท่านผู้ถาม

เว็บ haamor.com รู้สึกขอบคุณเป็นอย่างยิ่งที่ไว้ใจต่อการตอบคำถามจากคณะ แพทย์ เภสัชกร และบุคลากรทางการแพทย์สาขาต่างๆจากเว็บฯของเรา คณะของเรามีความเห็นร่วมกันว่า เพื่อเป็นการช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวของผู้ถามเอง ทางเว็บhaamor.com จึงขออนุญาต เปลี่ยน username ของท่าน เป็น 543be ด้วยชื่อที่ได้จากการสุ่มโดยระบบอัตโนมัติจากทางเว็บฯคะ

พญ. พวงทอง ไกรพิบูลย์
บรรณาธิการฝ่ายแพทย์

Anonymous

7 เมษายน 2557 01:38:29 #3

ต้องขอขอบพระคุณ คุณหมอพวงทองด้วยครับ ต้องขออภัยในคำถามที่วงเล็บชื่อคุณหมอเฉพาะไป แต่จริงๆ อยากให้ท่านผู้ทรงคุณวุฒิทุกท่นช่วยตอบ ช่วยวิเคราะห์ให้ผมที ทุกข์ใจมากครับ  ช่วยผมด้วยครับ

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

7 เมษายน 2557 03:00:52 #4

ถ้าผลเลือดเป็นลบทั้งเอดส์และซิฟิลิส ก็แสดงว่าทั้งคุณและแฟนไม่ติดเชื้อ อยากให้ระมัดระวังทั้งคู่ โดยไม่ให้มีคู่นอนใหม่หรือมีคู่นอนหลายคน เพราะมีโอกาสที่จะไปรับเชื้อและติดต่อกันได้ ถ้าไม่แน่ใจคงต้องใช้ถุงยางทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ ส่วนรูปที่ส่งมา เป็นได้ 2 กรณี คือ เกิดจากการแพ้ หรือระคายเคืองสารที่สัมผัส เช่น สบู่ น้ำยาต่างๆ หรือสารหล่อลื่น แนะนำล้างเบาๆด้วยสบู่อ่อนๆ เช่นสบู่เด็ก ทยาแก้แพ้ เช่น triamcinolone 0.02% ทาบางๆ เช้าเย็น หรืออาจเป็นเริม ซึ่งถ้าเป็นเริม รอยโรคจะเริ่มด้วยการเป็นตุ่มแดง แล้วกลายเป็นตุ่มน้ำใสๆ ภายใน 1-2 วัน ตุ่มน้ำจะแตกออกกลายเป็นแผลตื้นๆ เริมเป็นสาเหตุของแผลที่อวัยวะเพศที่พบบ่อยที่สุด เกิดจากการติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผล นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต รักษาโดยใช้ยา aciclovir 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชม. 5-7 วัน และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อเริม ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่เรียกว่า เฮอร์ปีส์ (Herpes) ไปแฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง ถ้าไม่แน่ใจแนะนำหาหมอผิวหนังครับ

Anonymous

7 เมษายน 2557 03:48:30 #5

ขอบคุณครับ ตอนนี้จะไปหาหมอผิวหนังครับ เครียด แต่แฟนผมไม่เป็นอะไรเลย ครับ ทั้งก็มีอะไรกันแบบไม่ป้องกัน 

Anonymous

7 เมษายน 2557 03:52:48 #6

คุณหมอมีวิธีการตรวจที่จะรู้ว่าเราเป็นเริม ไหมครับ ต้องไปตรวจอะไรเพิ่มเติมอีกครับ

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

9 เมษายน 2557 05:51:50 #7

การตรวจยืนยันว่าเป็นเริม นอกจากการดูลักษณะของแผลที่เริ่มด้วยการเป็นตุ่มน้ำแล้ว มีการตรวจทางห้องแล็บเพื่อยืนยัน เช่นการเพาะเชื้อ การตรวจ DNA การตรวจแอนติเจนหรือที่เรียกว่า PCR หรือการตรวจเลือดหาภูมิต้านทาน อย่างไรก็ตาม การตรวจเหล่านี้มักจะใช้ในงานศึกษาวิจัย ถ้าต้องการตรวจ อาจต้องใช้บริการตาม รพ. ของมหาวิทยาลัยที่เป็นคณะแพทย์ และค่อนข้างแพง