กระดานสุขภาพ

ทางเดินปัสสาวะอักเสบ
Anonymous

24 มีนาคม 2557 05:01:40 #1

สวัสดีค่ะ คุณหมอ

คุณแม่อายุ 64 ปี ใส่ Double J Stent เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ หลังจากใส่ได้ 3-4 วัน ปัสสาวะขุ่น มีไข้ หนาวสั่น

ไปพบคุณหมอบอกว่าติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ ให้ยาฉีดมา 7 วัน รอเพาะเชื้อค่ะ พอครบ 7 วัน ผลเพาะเชื้อบอกว่าติดเชื้อชื่อ Klebsiella pneumoniae ESBL Producing ซึ่งดื้อยาที่ให้มาทีแรก

คุณหมอเลยปลี่ยนยาเป็น Sitafloxacin 14 วัน ก็ไม่หาย เปลี่ยนยาอีกรอบเป็น Ertapenem ค่ะ หลังจากให้ยาไป 4 วัน ส่งปัสสาวะเพาะเชื้อ ระหว่างรอผลเพาะเชื้อคุณหมอให้ยาต่อจนครบ 7 วัน ไปฟังผลเมื่อ 20 มีนาคม ที่ผ่านมาไม่มีเชื้อในทางเดินปัสสาวะแล้วค่ะ

มีคำถาม ดังนี้ค่ะ

1. ไม่มีเชื้อในทางเดินปัสสาวะแล้ว แต่วันนี้ผลการตรวจปัสสาวะ ยังพบเม็ดเลือดขาว 30-50 Leukocyte 2+ แบบนี้แสดงว่ายังมีเชื้ออยู่ หรือเป็นแค่การอักเสบจากการใส่ DJ Stent คะ คุณหมอไม่ได้สั่งทำอะไรต่อ แบบนี้เราควรจะส่งปัสสาวะเพาะเชื้ออีกรอบไหมคะ (แต่หลังจากฉีดยาได้ 3-4 วัน ปัสสาวะก็กลับมาใสดี และไม่มีไข้สูงตอนเย็นแล้วค่ะ หลังจากขุ่น/มีไข้มาเกือบเดือน กินยาพาราเซตามอลจนกลัวตับพัง ต้องใช้วิธีเช็ดตัว ประคบเย็นแทนค่ะ)

2. ไม่พบเชื้อแล้ว แต่คุณหมอให้ยา MEIACT มารับประทานต่ออีก 14 วัน บอกว่าเพื่อป้องกัน ตัวนี้จำเป็นต้องทานไหมคะ เพราะค่าไตคุณแม่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ไม่อยากให้ไตพังไปกว่านี้ถ้าไม่จำเป็นค่ะ

3. ค่า Creatinine ตอนให้ยาฉีด 7 วันแรก เพิ่มจาก 1.5 เป็น 1.95 พอหยุดยาฉีด ค่า Creatinine ลงมาที่ 1.4 พอให้ Sitafloxacin ค่าก็ขึ้นไปอีกเป็น 1.8 ตามด้วยยา Ertapenem ก็ขยับขึ้นไปอีกเป็น 1.95 เลยสงสัยว่าตอนนี้ฉีดยาครบแล้ว Creatinine จะกลับลงมาเท่าเดิมที่ 1.2-1.4 ได้ไหมคะ หรือไตวายไปเสียแล้ว ถามคุณหมอ คุณหมอบอกว่าไม่น่าเกี่ยวกับยาปฏิชีวนะที่ให้ แต่เห็นค่ามันขึ้นลงสัมพันธ์กับการกิน-หยุดยาเลยค่ะ

4. คุณแม่ควรปฏิบัติตัวอย่างไร เพื่อไม่ให้กลับมาติดเชื้อซ้ำอีกค่ะ

ขอบพระคุณคุณหมอค่ะ

 

อายุ: 64 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 46 กก. ส่วนสูง: 151ซม. ดัชนีมวลกาย : 20.17 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ พญ. พวงทอง ไกรพิบูลย์

(วว.รังสีรักษา และเวชศาสตร์นิวเคลียร์)

29 มีนาคม 2557 05:04:14 #2

ก่อนอื่น ขอขอบคุณที่คุณไว้ใจในการตอบคำถามจากคณะแพทย์ของเว็บ haamor.com แต่การตอบคำถามทางการแพทย์ผ่านทางเว็บฯจะมีข้อจำกัดหลายประการโดยเฉพาะในกรณีเป็นโรคที่ซับซ้อนคะ

จากที่คุณเล่ามา คณะแพทย์ที่ตอบคำถามทางเว็บ haamor.com ที่รวมถึง แพทย์เฉพาะทางโรคไต พญ. ศิริรัตน์ เรืองจุ้ย ได้ปรึกษา และมีความเห็นสอดคล้องว่า คุณแม่เป็นผู้สูงอายุที่มีโรคซับซ้อน ดังนั้นการตอบคำถามต่างๆที่คุณถามมา รวมถึงการที่จะแนะนำวิธีการดูแลคุณแม่และแนวทางปฏิบัติตัวของคุณแม่ เป็นเรื่องยากที่จะตอบและแนะนำทางเว็บได้อย่างถูกต้องเหมาะสม เพราะแพทย์ที่จะตอบได้ ต้องได้ข้อมูลโรคของคุณแม่ที่ละเอียดกว่านี้มาก ซึ่งรวมถึงโรคประจำตัวต่างๆ และโรคที่กำลังดำเนินในปัจจุบัน ตลอดจนผลการตรวจต่างๆอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการรักษาต่างๆของคุณแม่ทั้งที่ผ่านมาและที่กำลังได้รับอยู่ทั้งหมด และที่สำคัญ คือแพทย์ที่จะตอบและแนะนำได้ถูกต้องเหมาะสม จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องได้ตรวจร่างกายคุณแม่ด้วย

ดังนั้น คณะแพทย์ฯ จึงไม่สามารถตอบคำถาม หรือให้คำแนะนำการปฏิบัติตัวของคุณแม่เพราะอาจจะผิดพลาดได้ จึงแนะนำคุณปรึกษาแพทย์ที่ดูแลรักษาคุณแม่ จะได้คำตอบที่ถูกต้องและเหมาะสมกับคุณแม่คะ

 

พญ. พวงทอง ไกรพิบูลย์
บรรณาธิการฝ่ายแพทย์