ดูจากรูปที่ส่งมา เห็นเป็นรอยแดงๆ คล้ายแผลถลอกที่บริเวณอวัยวะเพศ ถ้าคุณมีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ เช่น มีคู่นอนหลายคน ไม่ใช้ถุงยางอนามัย ก็อาจเป็นกามโรค เช่น

1. ซิฟิลิส ซึ่งเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบได้บ่อยขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย จะมีโอกาสพบบ่อยกว่าชายทั่วไป ระยะฟักตัวคือ 10-90 วัน หลังจากมีความเสี่ยง แบ่งเป็น

        1. แผลริมแข็งหรือระยะที่ 1 รักษาโดยฉีดยา benzathine 2.4 ล้านยูนิต ครั้งเดียว

        2. ระยะที่ 2 มีอาการผื่นขึ้นตามตัวไม่คัน อาจมีรอยแดงบริเวณเยื่อบุบริเวณอวัยวะเพศหรือ ผมร่วงเป็นต้น รักษาโดยฉีดยา benzathine 2.4 ล้านยูนิต ครั้งเดียว

        3. ระยะแฝง ไม่มีอาการ รักษาโดยฉีดยา benzathine 2.4 ล้านยูนิต 3 ครั้งติดต่อกัน (อาทิตย์ละ 1 เข็ม)

สำหรับการติดต่อนั้น จะติดต่อได้ในระยะที่ 1 และ 2 เช่นระยะที่ 1 จะมีเชื้อซิฟิลิสอยู่ที่น้ำเหลืองจากแผล ถ้ามีการร่วมเพศหรือการทำออรัลเซ็กส์ เชื้อจะเข้าสู่ร่างกายทางเยื่อบุบริเวณอวัยวะเพศหรือในช่องปาก

2. แผลเริม เริมเป็นสาเหตุของแผลที่อวัยวะเพศที่พบบ่อยที่สุด เกิดจากเชื้อไวรัส Herpes simplex อาการจะเป็นหลังจากที่มีความเสี่ยงประมาณ 3-7 วัน ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผล เจ็บและอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต ต้องรักษาโดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (วันละ 5 เม็ด) ประมาณ 1 อาทิตย์ และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อไวรัส Herpes) ไปแฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ เมื่อมีการกระตุ้น เช่น การร่วมเพศ การช่วยตัวเอง ก็จะเป็นซ้ำ โดยอาจมีอาการปวด เสียว บริเวณผิวหนังก่อนที่จะเป็นแผล แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง

ในกรณีที่คุณไม่มีความเสี่ยงคือใช้ถุงยางทุกครั้ง รวมทั้งในการทำออรัลเซ็กส์ ก็ไม่เป็นกามโรค สาเหตุ 1. แพ้หรือระคายเคืองสารที่ใช้ 2.โรคผิวหนังอื่นๆ  แนะนำหาหมอครับ