กระดานสุขภาพ

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
Anonymous

9 พฤศจิกายน 2562 08:10:35 #1

พอดีมีเพศสัมพันธ์ภายนอกมาครับ มีการจูบปาก ไซร้ร่างกาย และผมถูกออรัลเซ็กซ์ให้ระยะเวลาหนึ่ง (ถูกทำอยู่ฝ่ายเดียว ผมไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายนะครับ) พร้อมกับเขาเอาอวัยวะเพศเพศของเขาและผมมาประกบกันและชักพร้อมกันครับ (ไม่แน่ใจว่ามีน้ำเงี่ยนของอีกฝ่ายโดนอวัยวะเพศของผมไหมนะครับ แต่ถ้าที่รู้สึกตัวคือไม่โดนครับ) และสุดท้ายคือเขาสำเร็จความใคร่ใส่ตัวผมครับ เรียกง่ายๆก็คือแตกใส่ช่วงลำตัวผมครับ (ระหว่างนั้นผมเอามือตัวเองกำอวัยวะเพศตัวเองไว้กลัวน้ำอสุจิเขารดโดนใส่ พอเสร็จกิจก็เช็ดทำความสะอาดและลุกไปอาบน้ำครับ สถานการณ์แบบนี้มีความเสี่ยงจะติดโรคติดต่ออะไรได้บ้างครับ
อายุ: 28 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 52 กก. ส่วนสูง: 168ซม. ดัชนีมวลกาย : 18.42 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Anonymous

9 พฤศจิกายน 2562 08:16:22 #2

เพิ่มเติมคำถามครับ ** สถานการณ์แบบที่ผมอธิบายไปมีความเสี่ยงเป็นโรคติดต่ออะไรได้บ้างครับ และมีความเสี่ยงสูงแค่ไหนครับ ขอบคุณครับ
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

11 พฤศจิกายน 2562 05:53:12 #3

  • 1. มีการศึกษาความเสี่ยงของการติดเชื้อเอชไอวีหรือเอดส์จากการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อเอดส์ 1 ครั้ง จากมากไปน้อยดังนี้
  • ชายหรือหญิงเป็นฝ่ายถูกสอดใส่ทางทวารหนัก 0.5%-1.38%
  • หญิงเป็นฝ่ายถูกสอดใส่ทางช่องคลอด 0.1%
  • ชายเป็นฝ่ายสอดใส่ทางทวารหนัก 0.065%
  • ชายเป็นฝ่ายสอดใส่ช่องคลอด 0.05%
  • ชายหรือหญิงที่เป็นฝ่ายทำออรัลเซ็กส์ 0.01% ชายหรือหญิงเป็นฝ่ายถูกทำออรัลเซ็กส์ 0.005% อย่างไรก็ตามโอกาสจะเพิ่มขึ้นถ้าเป็นกามโรคหรือมีแผลด้วย โดยหลักการคือมีการสัมผัสกับสารคัดหลั่ง เช่นตกขาวหรือมูกในช่องคลอดหรือน้ำอสุจิกับบริเวณเยื่อบุของอวัยวะเพศหรือช่องปากหรือทางทวารหนัก ในกรณีที่คุณเป็นฝ่ายถูกทำออรัลเซ็กส์ ถ้าคู่นอนมีเชื้อเอดส์ คุณมีโอกาสติดเชื้อประมาณ 0.005% ส่วนการเล้าโลม การสำเร็จความใคร่ด้วยมือ รวมทั้งการสัมผัสน้ำอสุจิตามร่างกายหรือผิวหนังที่ไมมีแผลเปิด ถือว่าไม่มีความเสี่ยง
  • 2. ส่วนโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆที่อาจจะติดต่อทางการทำออรัลเซ็กส์ เช่น แผลซิฟิลืสระยะที่ 1 หรือเริม คือถ้าคู่นอนมีแผลในช่องปากและทำออรัลเซ็กส์ให้คุณ และอาจจะติดเชื้อหนองในหรือหนองในเทียมได้ถ้าคู่นอนมีการติดเชื้อในลำคอ
  • 3. ในกรณีที่ต้องการตรวจนั้น เอดส์หรือเอชไอวี วิธีที่ตรวจได้เร็วที่สุดหลังมีความเสี่ยงคือการตรวจด้วยด้วยวิธี NAAT คือการตรวจส่วนของเชื้อไวรัสเอชไอวีสามารถตรวจได้เร็วขึ้น คือประมาณ 1 อาทิตย์หลังมีความเสี่ยง แต่จะมีตรวจเฉพาะห้องแล็บใหญ่ๆและมักใช้ในงานวิจัย เนื่องจากมีราคาแพง แนะนำให้ตรวจด้วยวิธีที่ใช้กันทั่วไป คือ GEN 4 ซึ่งเป็นการตรวจแอนติเจนและแอนติบอดี สามารถตรวจได้หลังมีความเสี่ยงประมาณ 3-4 อาทิตย์ ถ้าผลเป็นลบ ก็แสดงว่าไม่ติดเชื้อ แต่ควรตรวจซ้ำหลังเสี่ยงครบ 3 เดือน ซึ่งถ้าผลเป็นลบ ก็ไม่ติดเชื้อเอดส์ ส่วนซิฟิลิส ควรตรวจเมื่อสงสัย ถ้าผลเป็นลบ ให้ตรวจซ้ำที่หลังเสี่ยง 3 เดือน ถ้าผลเป็นลบ ก็ไม่ติดเชื้อ ส่วนโรคอื่นๆนั้น เช่นหนองใน ตรวจจากมูกในท่อปัสสาวะ