กระดานสุขภาพ

สอบถามเรื่องรอยที่อวัยวะเพศ
Anonymous

7 มิถุนายน 2562 07:02:26 #1

ต้องบอกก่อนครับว่า เพิ่งสังเกตเห็นรอยนี้เมื่อคืนตอนดึกๆ(06/06/19) หลังจากที่ตอนเย็นมีเพศสัมพันธ์กับเพื่อนของเพื่อน รอยเป็นลักษณะสีอ่อนกว่ารอบข้าง ผิวเป็นเงาสะท้อนแสงได้ดีกว่ารอบข้าง ไม่เป็นแผล ไม่เจ็บ ไม่คัน ดูคล้ายผิวแห้ง ดึงตึงไม่เห็นผื่นนูน

ลักษณะการมีเพศสัมพันธ์คือ อีกฝ่ายทำออรัลให้โดยไม่สวมถุงยาง ไม่เสร็จ อาบน้ำ ล้างตัวอีกครั้งก่อนมีเพศสัมพันธ์โดยสวมถุงยาง

เคยตรวจซิฟิลิสพร้อมตรวจร่างกายประมาณสองเดือนที่แล้ว ผลเป็นลบ และเมื่อวานเป็นการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกในรอบหลายเดือน จนถึงปัจจุบันไม่มีอาการอื่นนอกจากรอยดังกล่าว 

อยากให้คุณหมอช่วยดูหน่อยครับว่าแบบนี้คือเป็นอะไร แล้วต้องรักษาแบบไหน รอยโรคนี้ต้องไปหาหมอทันทีหรือไม่ ถ้าจะตรวจเลือดเพื่อตรวจกามโรคต้องรอนานเท่าไหร่ถึงไปตรวจ หรือรอไปตรวจรอยโรคนี้พร้อมตรวจเลือดดีกว่า

จริงๆเพื่อนเห็นว่าน่าจะผิวชั้นนอกถลอกเพราะโดนฟันขณะทำออรัล และแนะนำให้ทาde**** แต่ผมกังวลและยังไม่ปักใจเชื่อตามเพื่อนจึงมาขอคำปรึกษาครับ รบกวนคุณหมอดูรูปแล้วแนะนำทีครับ

http://haamor.com/media/images/webboardpics/603b2-48491-1.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/603b2-48491-1.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/603b2-48491-2.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/603b2-48491-3.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/603b2-48491-4.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/603b2-48491-5.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/603b2-48491-6.jpg

อายุ: 36 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 70 กก. ส่วนสูง: 170ซม. ดัชนีมวลกาย : 24.22 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

8 มิถุนายน 2562 08:05:53 #2

  • ดูจากรูปที่ส่งมา เห็นเป็นผื่นขนาดเล็กๆประมาณ 1-2ซม. ที่หนังหุ้มอวัยวะเพศ เกิดขึ้น 1 วันหลังมีออรัลเซ็กส์โดยไม่ได้ใช้ถุงยาง ถ้าคุณและแฟนไม่มีความเสี่ยงคือในรอบ 3 เดือนที่ผ่นมาไม่ได้มีเซ็กส์กับคนอื่นหรือถ้ามีก็ใช้ถุงยางทุกครั้ง ก็ไม่เป็นโรคติดต่อ สาเหตุ อาจจะเกิดจากการระคายเคืองสารที่มาสัมผัส เช่น สบู่ เจลอาบน้ำ หรืออาจจะเกิดจากการช่วยตัวเองหรือการร่วมเพศหรือการทำออรัลเซ็กส์ที่รุนแรงเกินไป ร่วมกับความอับชื้น จึงเป็นผื่นแดงๆและอาจมีเชื้อราร่วมด้วย แนะนำให้ทำความสะอาดด้วยสบู่อ่อนๆ เช่นสบู่เด็ก ล้างเบาๆแล้วซับให้แห้งด้วยผ้านุ่มๆ ทายาที่มีส่วนผสมของาแก้แพ้ชนิด triamcinolone 0.02% + ยาเชื้อรา clotimazoleทาบางๆ เช้าและก่อนนอนหลังอาบน้ำ น่าจะดีขึ้นใน 5-7 วัน แต่ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีความเสี่ยงมาก่อนและมีประวัติเคยเป็นเริม โรคที่พบบ่อยคือ เริม เกิดจากเชื้อไวรัส Herpes simplex อาการจะเป็นหลังจากที่มีความเสี่ยงประมาณ 5 -10 วัน ในกรณีที่เป็นครั้งแรก
  • จะมีอาการรุนแรง เช่น
  • มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผลเจ็บและอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต ต้องรักษาโดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (วันละ 5 เม็ด)ประมาณ 1 อาทิตย์ และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อไวรัส Herpes) ไปแฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ เมื่อมีการกระตุ้น เช่นการร่วมเพศ การช่วยตัวเอง ก็จะเป็นซ้ำ โดยอาจมีอาการปวด เสียว บริเวณผิวหนังก่อนที่จะเป็นแผล แต่การเป็นซ้ครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง ในกรณีของคุณ ถ้าผื่นที่เป็นเริ่มเป็นตุ่มน้ำและแตกเป็นแผลภายใร 2-5 วัน ก็อาจจะเป็นเริม ส่วนซิฟิลิสนั้น จะเป็นแผลขอบแข็ง ไม่เจ็บโดยจะเป็นหลังเสี่ยง 10-90 วัน โดยสรุป ขึ้นกับความเสี่ยงและลักษณะของผื่น ส่วนการตตรวจเลือดนั้น ถ้ายังไม่เคยตรวจ ก็ควรจะตรวจทั้งเอดส์และซิฟิลิส ถ้าผลเป็นลบ ก็ตรวจซ้ำอีกครั้งที่ 3 เดือนหลังเสี่ยง สามารถใช้สิทธิบัตรทองหรือประกันสังคมได้ครับ