กระดานสุขภาพ

มีรอยคล้ำขึ้นที่ปลายอวัยวะเพศ
Anonymous

21 มีนาคม 2562 19:11:58 #1

มีรอยคล้ำขึ้นที่ปลายอวัยวะเพศ โดยเฉพาะตอนหลังมีเพศสัมพันธ์เสร็จจะมีรอยคล้ำชัดขึ้น (จุด B) และพอปล่อยไปก็จางลงแต่ไม่หาย แต่จะกลับมาเข้มหลังมีเพศสัมพันธ์อีกครั้ง พร้อมจุดแดงๆ (จุด A) ใกล้กันตามรูปครับ

http://haamor.com/media/images/webboardpics/c47c2-47695.jpg

อายุ: 31 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 56 กก. ส่วนสูง: 170ซม. ดัชนีมวลกาย : 19.38 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Anonymous

21 มีนาคม 2562 19:24:41 #2

ไม่เจ็บหรือคัน เป็นแค่รอยคล้ำ พอแหวกไปดูในทอปัสสาวะ จะเจออีกตุ่มนึง (จุด C) ไม่ทราบว่าเป็นอาการอะไรได้บ้างครับ ขอบคุณครับ
Anonymous

22 มีนาคม 2562 04:01:42 #3

รูปเพิ่มเติมครับ

http://haamor.com/media/images/webboardpics/c47c2-47695-2.jpg

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

23 มีนาคม 2562 04:21:51 #4

สี ขนาดและรูปร่างของอวัยวะเพศชายจะแตกต่างกันในแต่ละคน ผิวของหนังหุ้มด้านนอกจะมีสีออกคล้ำกว่าบริเวณอื่น ส่วนด้านในจะเป็นเยื่อบุออกสีอ่อนกว่าหรืออกชมพูปนน้ำตาล ส่วนที่บริเวณหัวอวัยวะเพศจะเป็นเยื่อบุออกสีชมพูอมน้ำตาลหรือชมพูปนแดง เมื่อมีอารมณ์ทางเพศ เลือดจะมาคั่งที่เนื้อเยื่อบรืเวฯนี้ ทำให้อวัยวะเพศแข็งตัว ในกรณีของคุณ ดูจากรูปที่ส่งมา เห็นรอยแดงๆอยู่ที่ปลายท่อปัสสาวะ ถ้าทั้งตังคุณและแฟนต่างก็ไม่มีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์คือไม่เคยมีเซ็กส์กับคนอื่นหรือเคยแต่ใช้ถุงยางทุกครั้ง รวมทั้งไม่เคยมีประวัติเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อาการที่เป็นอาจจะเกิดจาก1. การอักเสบจากการร่วมเพศ ถ้างดกิจกรรมทางเพศ อาการน่าจะค่อยๆดีขึ้น 2. อาจจะเคยเป็นแผลหรือมีการอักเสบมาก่อน เมื่อหายแล้วเกิดเป็นรอยคล้ายแผลเป็น 3. แต่ถ้าคุณเคยมีประวัติเป็นเริมและรอยช้ำที่เห็นเคยแตกเป็นแผล ก็อาจจะเป็นอาการของเริมได้ เกิดจาการติดต่อทางเพศสัมพันธ์จากเชื้อไวรัส Herpes simplex อาการจะเป็นหลังจากที่มีความเสี่ยงประมาณ 5 -10 วัน ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผล เจ็บและอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต ต้องรักษาโดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (วันละ 5 เม็ด)ประมาณ 1 อาทิตย์ และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อไวรัส Herpes) ไปแฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ เมื่อมีการกระตุ้น เช่นการร่วมเพศ การช่วยตัวเอง ก็จะเป็นซ้ำ โดยอาจมีอาการปวด เสียว บริเวณผิวหนังก่อนที่จะเป็นแผล แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง 4. สาเหตุอื่นๆ แนะนำหาหมอระบบสืบพันธ์และทางเดินปัสสาวะครับ

Anonymous

23 มีนาคม 2562 10:47:40 #5

ขอให้รายละเอียดเพิ่มเติมคับ รอยดังกล่าวไม่เคยเป็นแผล ครั้งแรกที่เป๊นก็เป็นรอยช้ำๆแบบนี้เลยครับ หลังจากมีเพศสัมพัน จะเจ็บๆที่หัว 2-3วัน หากช่วยตัวเองก็จะกลับมาเจ็บๆอีกในวันถัดมา ตอนร่วมเพศส่วนใหญ่จะนานประมาณ1ชม.ครับ และมีความรุนแรงบ่อยๆ (กระแทกแรงๆ ลึกๆ) และ1วันประมาณ 3 รอบ แล้วเว้นไป2อาทิตย์ค่อยมีอีกที ขอถามครับ 1. หากเป็นการอักเสบจากการใช้งานหนักเกินไป เพียงอย่างเดียว แค่พักเฉยๆก็เพียงพอใช่ไหมคับ แต่รอยจะไม่หาย 2.กรณีนี้มีความเป็นไปได้ไหมครับว่า ฝ่ายหญิงจะมีเชื้อบางอย่าง 3.หรือเป็นเพราะพฤติกรรมร่วมเพศที่รุนแรงไป หากลดให้เวลาน้อยลง และไม่รุนแรง จะใช้งานได้ตามปกติไหมครับ
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

24 มีนาคม 2562 05:11:59 #6

จากที่เล่าเพิ่มเติม น่าจะมีสาเหตุมาจากการรร่วมเพศที่บ่อย นาน และรุนแรงเกินไป ส่วนเรื่องฝ่ายหญิง ถ้ามีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และคุณมีเซ็กส์โดยไม่ใช้ถุงยาง ก็มีโอกาสที่จะติดเชื้อได้ โดยสรุป ให้งดกิจกรรมทางเพศประมาณ 2 อาทิตย์ ในการร่วมเพศหรือการช่วยตัวเองครั้งต่อไป ให้ทำด้วยความนุ่มนวล ถ้าอาการยังไม่ดีขึ้น แนะนำหาหมอระบบสืบพันธ์และทางเดินปัสสาวะครับ