กระดานสุขภาพ
มีตุ่มแดง เจ็บ ที่ปลายอวัยวะเพศ บริเวณท่อปัสสาวะครับ | |
---|---|
15 มกราคม 2562 10:53:46 #1 สวัสดีครับคุณหมอ ผมมีรอยบวมแดง ที่ปลายอวัยเพศบริเวณท่อปัสสาวะ(ต้องแหวะหัวออกถึงจะเห็น) มีอาการระคายเคือง เจ็บเบาๆอยู่ตลอดเวลา ไม่สบายตัว เวลาเอาสำลีแตะดูก็จะเจ็บ แต่เวลาปัสสาวะไม่รู้สึกเจ็บหริอแสบใดๆ ไม่มีหนองไหล ตรวจปัสสาวะทั่วไป ก็ปกติ หาสาเหตุไม่เจอ แพทย์จึงให้ยามากินหลายชนิด ก็ไม่ดีขึ้น ตอนนี้เป็นมา3เดือนแล้ว ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่นอน จึงทำการหยุดรักษาไปก่อนเพราะอาการไม่ดีขึ้น เลยมาสอบถามในเว็บก่อนเผื่อมีข้อมูลเพิ่มเติมครับ มีรูปด้วยครับ อันนี้คือรายชื่อยาที่เคยกินไปครับ 1.*** 250mg 2.*** 250mg + ยาฆ่าเชื้อฉีดเข้าสะโพก1เข็ม 3.*** + *** 1000mg 4.*** นี่รูปนะครับ รอยแดงตามที่วงแดงเลยครับ http://haamor.com/media/images/webboardpics/maxisis-47120-1.jpg http://haamor.com/media/images/webboardpics/maxisis-47120-2.jpg http://haamor.com/media/images/webboardpics/maxisis-47120-3.jpg http://haamor.com/media/images/webboardpics/maxisis-47120-4.jpg |
|
อายุ: 23 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 55 กก. ส่วนสูง: 165ซม. ดัชนีมวลกาย : 20.20 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง |
16 มกราคม 2562 10:32:31 #2 ดูจากรูปที่ส่งมา ที่ปลายท่อมีลักษณะบวมเล็กน้อยและสีออกคล้ำเล็กน้อย น่าจะอยู่ในเกณฑ์ปกติหรืออาจจะเกิดจากการที่เคยมีการอักเสบหรือการช่วยตัวเองที่รุนแรงหรือบ่อยเกินไป ส่วนยาที่คุณให้ชื่อมานั้น เป็นยาที่ระกษาระบบทางเดินปัสสาวะอักเสบทั้งที่เกิดจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์คือหนองในแท้และหนองในเทียม รวมทั้งการติดเชื้อแบคทีเรียทั่วๆไปด้วย และจากอาการที่คุณเล่ามารวมทั้งผลการตรวจปัสสาวะก็ปกติ คิดว่าไม่จำเป็นต้องรักษา การบวมเล็กน้อยถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติตามที่ได้กล่าวไปแล้ว อธิบายเพิ่มเติมว่า ระบบทางเดินปัสสาวะอักเสบแบ่งเป็น 1 ร่วมกับการมีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ น่าจะเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือกามโรค ที่พบบ่อยคือ หนองใน (แท้) เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่เรียกว่า ไนซีเรีย โกโนคอคไค สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ) ที่ดีที่สุดคือยาฉีด ceftriaxone 250 mg ฉีดเข้ากล้ามเนื้อเข็มเดียว ได้ผลร้อยละ 95 ขึ้นไปครับ ส่วนหนองในเทียม เกิดจากเชื้อหลายชนิด ที่พบมากคือเชื้อคลามัยเดียและมัยโคพลาสมา ที่สำคัญคือประมาณ 10 % ยังไม่ทราบสาเหตุ รักษาโดยให้ยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ)ที่ได้ผลดีคือ ด็อกซี่ซัยคลีน หรือ อิริโทรมัยซิน กินประมาณ 1-2 อาทิตย์ ในปัจจุบันมียาที่กินครั้งเดียว คือ อะซิโทรมัยซิน 1 กรัม แต่จะได้ผลน้อยกว่า ในกรณีที่เป็นๆหายๆ โดยทั่วไปมักเกิดจากการไปติดเชื้อใหม่ จากคู่นอน ซึ่งในผู้หญิงไม่ค่อยมีอาการผิดปกติและไม่รู้ว่าเป็นโรค เพราะฉะนั้นต้องรักษาทั้งคู่ครับ อย่างไรก็ตามพบว่าประมาณร้อยละ 50 อาจมีการติดเชื้อร่วมกัน คือเป็นทั้งหนองในแท้และเทียม ก็ต้องรักษาทั้ง 2 โรคคือ ทั้งฉีดและกิน 2 ไม่มีความเสี่ยง ระบบทางเดินปัสสาวะอักเสบเกิดจากเชื้อแบคทีเรียอื่น เช่นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ นิ่วในไต เป็นต้น โดยสรุป ในกรณีของคุณตรวจปัสสาวะไม่พบเชื้อ ถ้าไม่มีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติครับ |
Maxi*****s |
17 มกราคม 2562 03:56:06 #3 ขอบคุณครับคุณหมอ
แล้วอาการปวดเบาๆตลอดเวลาที่ปลาย นี่มีสาเหตุจากอะไรได้บ้างครับ การตรวจปัสสาวะทั่วไปสามารถเชื่อถือได้100%มั้ยครับ อันนี้รูปเพิ่มเติมน่าจะชัดกว่ารูปเดิมครับ http://haamor.com/media/images/webboardpics/maxisis-47120-5.jpg http://haamor.com/media/images/webboardpics/maxisis-47120-6.jpg http://haamor.com/media/images/webboardpics/maxisis-47120-7.jpg
ไม่จำเป็นต้องรักษาใช่มั้ยครับ เพราะผมไม่รู้ว่าตุ่มนี้มีนานรึยังเพราะไม่เคยเปิดปลายอวัยวะเพศดูเลย เพิ่งมาสังเกตุตอนรู้สึก ปวดๆที่ปลายอวัยวะเพศครับ
|
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง |
17 มกราคม 2562 18:16:44 #4 ดูจากรูปที่ส่งมา มีอาการบวมเล็กน้อยและสีออกคล้ำ ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ สำหรับการตรวจปัสสาวะสามารถบอกได้ว่ามีการอักเสบในระบบทางเดินปัสสาวะหรือไม่ ในกรณีของคุณ ยาที่บอกมาสามารถรักษาได้ทั้งเชื้อหนองใน หนองในเทียม และเชื้อแบคทีเรียอื่นๆด้วย ถ้าคุณไม่ได้มีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์เพิ่มเติม ก็ไม่ต้องรักษาอีกครับ |
Maxi*****s