กระดานสุขภาพ
ผมกับแฟนจะเป็นอะไรรึเปล่าครับ | |
---|---|
13 มกราคม 2562 17:45:05 #1 ก่อนปีใหม่ผมกับแฟนไปตรวจ HIV มาครับ ผลเลือดเป็นลบ พอหลังจากนั้นผมกลับบ้านครับกลับมาเจอกันอีกทีปีใหม่เรามีอะไรกันครับแต่ไม่ได้ป้องกันแต่ก่อนหน้านั้นป้องกันตลอด ผมกับแฟนเป็นชายรักชายครับ พอหลังจากที่มีอะไรกันวัน1 ผมมีตุ่มนูนขึ้นกลางดึกครับ1ต่มเหมือนยุงกัด ตอนแรกก็กังวลครับเลยกลัวเป็นโรค แต่ใจนึงก็เผื่อเป็นผื่นเลยรอให้มันหายครับ หลังจากนั้นสองสามวันผมก็มีอะไรกับแฟนอีกครั้งไม่ได้ป้องกันเหมือนเดิม พอมาวันนี้ต่มนั่นมันยังไม่หายครับแล้วผมมีอาการไอ เลยเริ่มกังวลครับ ผมกับแฟนจะเป็นอะไรไหมครับ |
|
อายุ: 21 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 54 กก. ส่วนสูง: 171ซม. ดัชนีมวลกาย : 18.47 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
Anonymous |
13 มกราคม 2562 23:21:15 #2 |
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง |
14 มกราคม 2562 03:51:53 #3 สำหรับการติดต่อของโรคเอดส์ 1. มีการร่วมเพศโดยไม่ใช้ถุงยางกับคนที่ติดเชื้อเอดส์ 2. ใช้เข็มฉีดยาร่วมกับคนที่ติดเชื้อเอดส์ 3. ได้รับเลือดบริจาคที่มีเชื้อเอดส์ และ 4 ติดเชื้อจากแม่ที่ติดเชื้อเอดส์ขณะตั้งครรภ์ สำหรับการติดต่อโดยเพศสัมพันธ์นั้น โดยหลักการคือต้องมีการสัมผัสสารคัดหลั่งหรือเลือดที่มีเชื้อเอดส์อยู่ เชื้อเอดส์จะเข้าสู่ร่างกายผ่านเซลล์ที่อยู่บริเวณหนังที่เป็นเยื่อบุอ่อนหรือถ้าเป็นผิวหนังจะต้องมีแผลหรือมีรอยที่เชื้อจะผ่านเข้าไปแล้วมีการแบ่งตัวเข้าสู่กระแสเลือดทำให้มีการติดเชื้อเกิดขึ้น ในกรณีของคุณ ถ้าแน่ใจว่าคุณและแฟนต่างก็ไม่มีความเสี่ยงคือ ไม่เคยร่วมเพศกับคนอื่นหรือเคยแต่ใช้ถุงยางทุกครั้ง และคุณทั้งคู่ไม่ได้ติดเชื้อเอดส์ ก็ถือว่าไม่มีความเสี่ยง เพราะการติดเชื้อจะต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งติดเชื้ออยู่ก่อนแล้วแพร่ให้อีกฝ่ายหนึ่งที่ยังไม่ติดเชื้อ สำหรับอาการของการติดเชื้อเอชไอวีซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเอดส์ คือ เมื่อรับเชื้อหรือมีพฤติกรรมเสี่ยงแล้วประมาณ 2-4 อาทิตย์ จะมีอาการคล้ายเป็นไข้หวัดใหญ่ เช่น ไข้สูง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เจ็บคอ ต่อมน้ำเหลืองโต มีผื่นตามตัว คล้ายออกหัด หรือส่าไข้ เป็นต้น หลังจากนั้น อาการต่างๆก็จะหายไป จนเมื่อมีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องซึ่งอาจนานหลายปี (3-5 ปีขึ้นไป) ก็จะเริ่มมีโรคแทรกซ้อน เช่น วัณโรค ปอดอักเสบ ตุ่มคันตามตัว แขนขา (PPE) น้ำหนักลด ท้องเสียเรื้อรัง ซึ่งสามารถยืนยันว่ามีการติดเชื้อหรือไม่โดยการตรวจเลือด วิธีที่ตรวจได้เร็วที่สุดหลังมีความเสี่ยงคือการตรวจด้วยด้วยวิธี NAAT คือการตรวจส่วนของเชื้อไวรัสเอชไอวีสามารถตรวจได้เร็วขึ้น คือประมาณ 1 อาทิตย์หลังมีความเสี่ยง แต่จะมีตรวจเฉพาะห้องแล็บใหญ่ๆและมักใช้ในงานวิจัย เนื่องจากมีราคาแพง แนะนำให้ตรวจด้วยวิธีที่ใช้กันทั่วไป คือ GEN 4 ซึ่งเป็นการตรวจแอนติเจนและแอนติบอดี สามารถตรวจได้หลังมีความเสี่ยงประมาณ 3-4 อาทิตย์ ถ้าผลเป็นลบ ก็แสดงว่าไม่ติดเชื้อ แต่ควรตรวจซ้ำหลังเสี่ยงครบ 3 เดือน ซึ่งถ้าผลเป็นลบ ก็ไม่ติดเชื้อเอดส์ โดยสรุป ถ้าแฟนคุณไม่มีเชื้อเอดส์และคุณและแฟนไม่ได้มีเซ็กส์กับคนอื่น ก็ถือว่าไม่มีความเสี่ยงครับ |
Haamor Admin(Admin) |
14 มกราคม 2562 05:52:55 #4 คุณ 317a7 ไม่ได้แชร์สิทธิ์การเข้าถึงรูปค่ะ |
Anonymous |
14 มกราคม 2562 10:08:24 #5
รูปภาพ ได้ไหมครับ
|
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง |
15 มกราคม 2562 06:40:59 #6 เนื่องจากรูปที่ส่งมาไม่ค่อยชัด เห็นเป็นตุ่มเล็กๆ สาเหตุ 1. การอักเสบของต่อมใต้ผิวหนังคล้ายกับการเกิดสิว ให้กินยาแก้อักเสบ เช่น dicloxacillin ครั้งละ 250 มิลลิกรัม วันละ 4 ครั้งก่อนอาหารและก่อนนอนประมาณ 2 อาทิตย์ 2. ซีสต์หรือถุงน้ำหรือถุงไขมันใต้ผิวหนัง ถ้าไม่เจ็บ ไม่มีเลือดออกหรือไม่มีการอักเสบ ก็ไม่ต้องทำอะไร อาจจะยุบเองได้ แต่ถ้าใหญ่ขึ้น เจ็บ อักเสบ อาจจะต้องเลาะออก 3. โรคผิวหนังที่เกิดจากการแพ้ เกา จนเป็นตุ่ม หรือโรคผิวหนังอื่นๆ แต่ถ้ามีความเสี่ยง เช่น มีคู่นอนหลายคน ไม่ใช้ถุงยางอนามัย ก็อาจเป็นโรคติตต่อ เช่น หูดหงอนไก่ หูดหงอนไก่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์ที่พบได้บ่อยขึ้น เกิดจากเชื้อไวรัส Human Papilloma Virus (HPV) การรักษาคือใช้ยา podophyllin หรือ trichloracetic acid จึ้อาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง ประมาณ 4-6 อาทิตย์ จี้หรือใช้ไฟฟ้า หรือเลเซอร์ โดยสรุป แนะนำหาหมอครับ |
Sare*****o |
16 มกราคม 2562 04:43:41 #7
ตอนแรกๆโดนเหมือนจะเจ็บครับ แต่ตอนนี้ไม่เจ็บละครับแต่คันนิดๆ ต่มก็ยังนูนๆอยู่
|
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง |
17 มกราคม 2562 18:22:43 #8 ตามที่ได้ตอบไปแล้ว รวมทั้งรูปที่ส่งมาไม่ค่อยชัด แนะนำหาหมอเพื่อตรวจวินิจฉัยครับ |
Anonymous