เพิ่มเติมอีกอย่างคับ คือผมปัสสาวะมีอาการแสบส่วนปลายอวัยะเพศคับ เลยไปหาหมอหมอเลยให้อยขับปัสสาวะมาทาน หลังจากนั้นผมก็ปัสสาวะบ่อยมาก จนยาหมดแต่ผมก็ยังรู้สึกอยากปัสสาวะอยู่เลยอะคับ แต่จะปัสสาวะที่ละไม่เยอเหมื่อนตอนที่ทายานะคับ แต่อาการแสบไม่มีแล้วนะคับ ส่วนเรื่องการปัสสาวะบ่อยของผมนี้มันเป็นเพราะผมเคยชินไปแล้วป่าวคับ หรือเป็นเพราะอะไรคับ ผมทายาประมาน 1 อาทิตย์คับ ขอบคุณคับ

จากที่ถามมามีสองประเด็น 1. ผลข้างเคียงจากยาที่กิน ยาที่คุณกินคือ amoxicillin 875 mg and clavulanic acid 125 mg มีผลข้างเคียงคือท้องเสีย ท้องอืด คลื่นไส้อาเจียน มีผื่นขึ้นตามตัว ในกรณีของคุณ อาการที่เป็นน่าจะเกิดจากผลข้างเคียงของยา เมื่อหยุดยาก็น่าจะค่อยๆหายใน 1 อาทิตย์ 2. เรื่องระบบปัสสาวะอักเสบ แบ่งเป็น 2.1 ร่วมกับการมีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ น่าจะเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือกามโรค ที่พบบ่อยคือ หนองใน (แท้) เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่เรียกว่า ไนซีเรีย โกโนคอคไค สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ) ที่ดีที่สุดคือยาฉีด ceftriaxone 250 mg ฉีดเข้ากล้ามเนื้อเข็มเดียว ได้ผลร้อยละ 95 ขึ้นไปครับ ส่วนหนองในเทียม เกิดจากเชื้อหลายชนิด ที่พบมากคือเชื้อคลามัยเดียและมัยโคพลาสมา ที่สำคัญคือประมาณ 10 % ยังไม่ทราบสาเหตุ รักษาโดยให้ยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ)ที่ได้ผลดีคือ ด็อกซี่ซัยคลีน หรือ อิริโทรมัยซิน กินประมาณ 1-2 อาทิตย์

ในปัจจุบันมียาที่กินครั้งเดียว คือ อะซิโทรมัยซิน 1 กรัม แต่จะได้ผลน้อยกว่า ในกรณีที่เป็นๆหายๆ โดยทั่วไปมักเกิดจากการไปติดเชื้อใหม่ จากคู่นอน ซึ่งในผู้หญิงไม่ค่อยมีอาการผิดปกติและไม่รู้ว่าเป็นโรค เพราะฉะนั้นต้องรักษาทั้งคู่ครับ อย่างไรก็ตามพบว่าประมาณร้อยละ 50 อาจมีการติดเชื้อร่วมกัน คือเป็นทั้งหนองในแท้และเทียม ก็ต้องรักษาทั้ง 2 โรคคือ ทั้งฉีดและกิน 2.2 ไม่มีความเสี่ยง ระบบทางเดินปัสสาวะอักเสบเกิดจากเชื้อแบคทีเรียอื่น เช่นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ นิ่วในไต เป็นต้น รักษาโดยการให้ยาฆ่าเชื้อ เช่น ยาในกลุ่มควิโนโลน เป็นต้น โดยสรุป แนะนำหาหมอระบบสืบพันธ์และทางเดินปัสสาวะครับ