กระดานสุขภาพ

มีน้ำใสๆไหลซึ่มออกจากอวัยวะเพศตลอดเวลาครับ
Watc*****0

23 สิงหาคม 2561 19:32:29 #1

สวัสดีคับ คุณหมอ

ผมไม่มีเพศสัมพันธ์มาหลายปีแล้ว แต่ช่วยตัวเองบ่อย 4 ครั้งต่ออาทิตย์

แต่อยู่ๆ 2 วันแรกผมมีอาการ แสบขณะปัสสาวะ และมีกลิ่นเหม็นๆ ผมคิดว่าดื่มน้ำน้อยไป ผมจึงดื่มน้ำเยอะขึ้น วันที่ 3 เริ่มมีน้ำใสๆเหนียวๆ ไหลซึมออกจากปลายอวัยวะเพศ ทั้งวัน ตอนเช้าที่กางเกงในก็มีคราบขาวๆ ผมจึงไปหาหมอ ที่คลินิค หมอให้ไปตรวจปัสสาวะ บอกว่าผมเป็นลูกหมากอักเสบ และให้ยา ciprofloxacin มากิน 7 วัน อาการหายเป็นปกติ

แต่หลังจากนั้น 2 วัน อาการกลับมาเหมือเดิม คือ ขณะปัสสาวะมีอาการแสบ และมีน้ำใสๆซึมออกมาจากปลายอวัยวะเพศ ผมจึงไปหาหมอคนเดิม ครั้งนี้ไม่ได้ตรวจปัสสาวะ หมอให้ยา ciprofloxacin มากิน 2 อาทิตย์ อาการก็หายเป็นปกติ

แต่ 3 วันถัดมามีอาการ ปัสสาวะมีกลิ่น แสบขณะปัสสาวะ แสบหลังจากปัสสาวะ มีน้ำใสๆซึมเริ่มซึมออกมาอีกแล้ว ผมจึงไปหาหมอคนเดิม หมอบอกว่าครั้งแรกตรวจก็ไม่มีอะไร จะตรวจทำไมให้เสียตังฟรี ผมจึงขอร้องให้หมอตรวจปัสสาวะ ผลตรวจออกมา หมอพูดว่าปัสสาวะขุ่น และก็ให้ยา ciprofloxacin 7 วัน มาเหมือนเดิม และนัดให้มาตรวจปัสสาวะใหม่หลังยาหมด และบอกว่าถ้ายังไม่หายสงสัยต้องฉีดยาแล้วนะ

ผมจึงเข้า google ค้นหาอาการแบบผม ส่วนใหญ่จะพูดว่าเป็นหนองในเทียม ผมเปลี่ยนหมอดีไหม หรือ ว่าควรรักษากับหมอคนเดิม ดีครับ

อายุ: 28 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 50 กก. ส่วนสูง: 165ซม. ดัชนีมวลกาย : 18.37 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

24 สิงหาคม 2561 05:58:31 #2

การช่วยตัวเองถือเป็นเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย ไม่มีโอกาสที่จะเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคเอดส์ ถ้าการช่วยตัวเองที่ไม่บ่อย เช่นอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง จากการศึกษาไม่พบว่ามีผลเสียต่อสุขภาพหรือเรื่องสมรรถภาพทางเพศ ในบางรายที่มีการช่วยตัวเองที่บ่อย เช่น วันละหลายครั้งหรือทุกวัน และทำติดต่อกันเป็นเวลานาน ก็อาจมีผลทางด้านจิตใจ เป็นคนเสพติดการช่วยตัวเอง เวลามีการร่วมเพศจริงๆกับผู้หญิง อาจจะเกิดภาวะอวัยวะเพศไม่แข็งตัว หรือการหลั่งเร็วหรือหลั่งก่อนการสอดใส่ก็ได้ นอกจากนี้ถ้าถ้ามีการช่วยตัวเองที่บ่อยเกินไป และรุนแรง นานเกินไป ทำให้เกิดการอักเสบของท่อปัสสาวะและเนื้อเยื่อรอบๆอวัยวะเพศ เกิดอาการปัสสาวะบ่อย ปวดท้องน้อยและหน่วงที่ลูกอัณฑะ สำหรับอาการที่คุณเล่ามานั้น อาจจะเกิดจากการช่วยตัวเองที่บ่อยเกินไปหรือรุนแรงหรืออาจจะมีการอักเสบของระบบทางเดินปัสสาวะที่ไม่เกยี่งกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เพราะคุณไม่ได้มีเพศสัมพันธ์มา

หลายปีจึงไม่น่าจะเป็นโรคหนองในแท้หรือหนองในเทียม ระบบทางเดินปัสสาวะอักเสบเกิดจากเชื้อแบคทีเรียอื่น เช่นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ นิ่วในไต เป็นต้น แนะนำหาหมอระบบสืบพันธ์และทางเดินปัสสาวะครับ