กระดานสุขภาพ

น้องชายเจ้าปัญหา
Soco*****4

30 กรกฎาคม 2561 12:57:34 #1

คือผมเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบครับแล้วที่นี้ผมก็ช่วยตัวเองทุกวันขณะเป็นโรคนั้นครับแต่ผมก็รักษาไปด้วยนะ จนผ่านหมดยาชุดแรกก็ไม่หายซักทีทั้งที่ควรหายแต่กลับมีอาการปวดที่อัณฑะข้างใดข้างหนึ่งหรือสองข้างแล้วแต่โอกาสและอาการปวดเกร็งของอวัยวะเพศหลังเสร็จกิจเพิ่มมาด้วยหนะครับผมกินยาอยู่อีกพักนึงจนอาการปัสสาวะบ่อยหายจึงหยุดกินยา แต่อาการปวดเกร็งกับปวดอัณฑะยังไม่หาย ปว แล้วเวลาในการช่วยตัวเองเสร็จเร็วขึ้นมากครับและไม่ค่อยรู้สึกด้วยเวลาช่วยตัวเองน้ำอุสจิที่หลั่งออกมาก็ไม่ค่อยข้นเหมือนก่อนเหมือนปนมากับปัสสาวะ หลังเสร็จกิจก็จะแสบๆข้างในท่อปัสสาวะด้วยครับ เป็นมาได้พักใหญ่แล้วครับ ผมไม่แน่ใจว่าเกี่ยวกับโรคเส้นเลือดขอดไหม ผมกลัวทำให้มีบุตรยาก 

อายุ: 18 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 110 กก. ส่วนสูง: 181ซม. ดัชนีมวลกาย : 33.58 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

31 กรกฎาคม 2561 05:04:43 #2

  • คำถามมีหลายประเด็น เริ่มต้นที่ระบบทางเดินปัสสาวะอักเสบซึ่งแบ่งเป็น 1 ร่วมกับการมีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ น่าจะเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือกามโรค ที่พบบ่อยคือ หนองใน (แท้) เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่เรียกว่า ไนซีเรีย โกโนคอคไค สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ) ที่ดีที่สุดคือยาฉีด ceftriaxone 250 mg ฉีดเข้ากล้ามเนื้อเข็มเดียว ได้ผลร้อยละ 95 ขึ้นไปครับ ส่วนหนองในเทียม เกิดจากเชื้อหลายชนิด ที่พบมากคือเชื้อคลามัยเดียและมัยโคพลาสมา ที่สำคัญคือประมาณ 10 % ยังไม่ทราบสาเหตุ รักษาโดยให้ยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ)ที่ได้ผลดีคือ ด็อกซี่ซัยคลีน หรือ อิริโทรมัยซิน กินประมาณ 1-2 อาทิตย์ ในปัจจุบันมียาที่กินครั้งเดียว คือ อะซิโทรมัยซิน 1 กรัม แต่จะได้ผลน้อยกว่า ในกรณีที่เป็นๆหายๆ โดยทั่วไปมักเกิดจากการไปติดเชื้อใหม่ จากคู่นอน ซึ่งในผู้หญิงไม่ค่อยมีอาการผิดปกติและไม่รู้ว่าเป็นโรค เพราะฉะนั้นต้องรักษาทั้งคู่ครับ อย่างไรก็ตามพบว่าประมาณร้อยละ 50 อาจมีการติดเชื้อร่วมกัน คือเป็นทั้งหนองในแท้และเทียม ก็ต้องรักษาทั้ง 2 โรคคือ ทั้งฉีดและกิน 2 ไม่มีความเสี่ยง ระบบทางเดินปัสสาวะอักเสบเกิดจากเชื้อแบคทีเรียอื่น เช่นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ นิ่วในไต เป็นต้น ส่วนอาการปวดตึงที่ลูกอัณฑะ ในถุงอัณฑะ จะประกอบด้วยลูกอัณฑะ ที่บริเวณส่วนหัวจะมีส่วนที่ทำหน้าที่สร้างน้ำเชื้อ ท่อส่งน้ำเชื้อ เส้นเลือด เส้นประสาทอยู่รวมกัน เรียกว่า spermatic cord ซึ่งสามารถคลำได้เป็นเส้นหรือเป็นก้อนเล็กๆ มีความยืดหยุ่น และเนื่องจากเส้นนี้อยู่ติดเข้าไปในช่องท้อง ถ้ามีการดึงรั้งเช่น การร่วมเพศหรือการช่วยตัวเองที่บ่อยเกินไป หรือการบีบคลำบ่อยๆ อาจทำให้เสียวถึงในช่องท้องได้หรือมีอาการปวดหน่วงๆได้ ยกเว้นว่าถ้ามีการติดเชื้อหรืออักเสบเช่นจากโรคหนองใน ก็จะบวมใหญ่ขึ้น และมีอาการเจ็บปวดมาก ทั้งสองประเก็นนี้รวมทั้งเรื่องที่กลัวว่าจะเป็นเส้นเลือดขอด แนะนำหาหมอระบบสืบพันธ์และทางเดินปัสสาวะ ประเด็นสุดท้ายเรื่องอวัยวะเพศไม่สู้นั้น ภาวะที่ทำให้เกิดการแข็งตัวผิดปกติในวัยหนุ่มมักจะมาจากสภาพจิตใจ เช่น ความเครียดจากภาวะการงาน เงิน ความกังวล เช่นกลัวแฟนจะไม่มีความสุข กลัวหลั่งเร็ว กลัวว่าอวัยวะเพศเล็ก เป็นต้น ในกรณีของคุณให้ลองดูว่ามีสภาพทางจิตหรือไม่ นอกจากนี้ การร่วมเพศติดๆกัน ก็อาจเป็นสาเหตุ
  • ที่ทำให้การร่วมเพศครั้งที่ 2 หรือ 3 อวัยวะเพศไม่แข็งหรือแข็งไม่เต็มที่หรืออ่อนตัวก่อนมีการหลั่งก็ได้ แนะนำว่า ในการร่วมเพศครั้งที่ 2 หรือครั้งต่อๆไป ควรจะต้องมีการพักก่อน เช่น 1 ชม. หรือถ้าในคนสูงอายุ อาจต้องพักเป็นวัน ส่วนสาเหตุทางกายที่พบบ่อยในคนสูงอายุ คือโรคหลอดเลือด เช่นความดัน โรคหัวใจ เบาหวาน การสูบบุหรี่และดื่มเหล้าจัด เป็นต้น โดยสรุป ไม่ต้องกังวล พักผ่อน ออกกำลังสม่ำเสมอ