กระดานสุขภาพ

สอบถามเรื่อง วัคซีนไวรัสตับอักเสบ บี ครับ
Aphi*****n

2 กรกฎาคม 2561 10:54:10 #1

สวัสดีครับ

ผมมีเรื่องจะสอบถามดังนี้ครับ

ผมตรวจเลือดมาครับ ก่อนแต่งงาน ยังไม่เคยติดเชื้อ และยังไม่มีภูมิ ไวรัส ตับอักเสบบีครับ

พอดีแฟนผมเป็นพาหะ ไวรัสตับอักเสบ บี ผมจึงไปฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิ ฉีดครบ 3 เข็ม แล้วครับ

เข็มที่ 1 วันที่ 3/8/2560

เข็มที่ 2 วันที่ 31/8/2560

เข็มที่ 3 วันที่ 25/1/2561

ทางคุณหมอที่ รพ. ก็บอกว่า ครบ 3 เข็ม แล้ว จะมีภูมิตลอดชีวิต แต่ก็ไม่ได้มีการตรวจอีกว่า มีภูมิขึ้นจริงหรือเปล่านะครับ

หลังจากนั้น วันที่ 23/6/2561 ผมไปตรวจเลือดและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ครับ (วางแผนจะมีลูก)

ผลออกมาคือ ผมยังไม่มีเชื้อ และไม่มีภูมิ เหมือนเดิมเลยครับ ตรวจไม่เจอภูมิ ถ้านับจากเข็มที่ 3 มา ก็ประมาณ 5 เดือน ภูมิน่าจะขึ้นแล้วรึเปล่าครับ แล้วแบบนี้ผมต้องทำยังไงต่อครับ

รบกวนคุณหมอช่วยตอบให้หน่อยครับ

ปล.ผมยังไม่เคยสัมผัสเชื้อ เพราะผมใส่ถุงยางทุกครั้งครับ ครั้งนี้กะว่าจะปล่อย แต่ก็กังวลเรื่องภูมิไม่ขึ้นอยู่ครับ

ขอบคุณครับ

อายุ: 32 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 62 กก. ส่วนสูง: 169ซม. ดัชนีมวลกาย : 21.71 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

3 กรกฎาคม 2561 14:44:45 #2

  • ปัจจุบันประเทศไทยยังคงมีผู้ที่เป็นพาหะไวรัสตับอักเสบบี แต่มีแนวโน้มลดลงเนื่องมาจากประสิทธิภาพการให้วัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบบีที่ครอบคลุมเกินกว่า 90% ของประชากรไทย ทั้งนี้การเริ่มให้วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบีให้แก่ทารกแรกเกิดทุกคนทั่วประเทศตามแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันต้านทานโรค (ภูมิคุ้มกันฯ) ของกระทรวงสาธารณสุขตั้งแต่ปี พ.ศ. 2535 และพบว่าอัตราการติดเชื้อและการเป็นพาหะโรคนี้ลด สำหรับภูมิคุ้มกันฯที่เกิดขึ้นภายหลังการได้รับวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบีขึ้นกับหลายปัจจัย ปัจจัยสำคัญที่ภูมิคุ้มกันฯอาจขึ้นได้น้อยได้แก่ อายุที่มากขึ้น เพศชาย ความอ้วน การสูบบุหรี่ โรคประจำตัวที่มีผลลดภูมิคุ้มกันฯของร่างกายเช่น โรคเอชไอวี และวิธีการให้ยาที่ไม่ถูกต้อง ดังนั้นผู้ป่วยบางรายอาจจำเป็นต้องได้รับวัคซีนเพิ่มขึ้นหากตอบ
  • สนองต่อวัคซีนนี้ลดลง โดยแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาเป็นกรณีๆไป ในคนทั่วไปไม่แนะนำให้ฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบบีกระตุ้นอีกหลัง
  • จากฉีด 3 เข็มครบแล้ว เนื่องจากการศึกษาระยะยาวพบว่าภูมิคุ้มกันฯที่เกิดขึ้นจากการฉีด 3 เข็มอยู่ได้นานมากกว่า 10 ปี ถึงแม้ว่า
  • ในบางรายจะตรวจเลือดไม่พบระดับแอนติบอดี (สารภูมิคุ้มกัน) โรคนี้หรือพบในระดับต่ำ แต่ยังมีระบบภูมิคุ้มกันฯความจำเหลืออยู่ซึ่งสามารถป้องกันการเกิดโรคนี้ได้ ในกรณีของคุณเนื่องจากแฟนเป็นพาหะ ถือว่ามีความเสี่ยงสูง แนะนำพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อปรึกษาว่าจำเป็นต้องฉีดกระตุ้นใหม่หรือไม่