กระดานสุขภาพ

ผมมีอาการ ท่อปัสสาวะอักเสบ หรือหนองในเทียม กันแน่ครับ
Ar28*****8

30 มิถุนายน 2561 18:37:55 #1

ผมเปนเกย์ครับ ผมไปมีอะไรกับผช.มา ยอมรับว่าไม่ได้ไม่ได้ป้องกัน ผมใส่ถุงแล้ว ผมถอดออก แต่ตอนหลั่งน้ำ ผมหลั่งข้างนอก แล้วคนนั้นเขาทำ oral sex. ให้ผมด้วย ผ่านไปประมาณ1เดือนได้ ผมมีอาการคันที่อวัยวะเพศครับ เวลารูดหนังหุ้มขึ้นมาจนสุด บริเวณหนังหุ้มตรงปลายจะแดงๆ คันตรงปลายหนังหุ้ม กับตรงคอขออวัยวะเพศที่หนังหุ้มหุ้มไว้ครับ อาการดีเป็นมาได้2อาทิด ผมไปหาหมอมาแล้ว ตอนนั้นไม่มีอาการอะไรเลยครับ นอกจากคัน(ไม่ได้คันตลอดเวลา) เวลาอาบน้ำเสร็จใหม่ๆจะไม่คัน ผ่านไปซักพักถึงคัน ก่อนอาบน้ำผมลองรูดหนังหุ้มขึ้นแล้วถูเบาๆบริเวณคัน มันมีขลุยขวาๆออกมาด้วยครับ หลังจากนั้นอาบน้ำแล้วก็ไม่คัน + อาการเหมือนจะไข้แต่ก็ไม่ไข้ มีแค่ปวดหัวนิดๆ หมอบอกว่า อาจเปนเชือรา หมอให้ยา clotriMAzole CR.1% มาทาบริเวณคัน และกินยาแก้คัน HyYDROXYZINE TAB. -ATARAX ใช้ยามา1อาทิตย์ อาการดีขึ้นครับ อาการคันไม่มีแล้ว มีเหลือคันๆเล็กน้อยช่วงปัสสาวะบ่อย(ผมทำงานเลิกเที่ยงคืน เลยกว่าจะได้แาบน้ำ) ใช้ยามา1อาทิตย์ อาการดีขึ้น แต่ตอนนี้เริ่มแสบที่ท่อปัสสวะตรงอวัยวะเพศครับ แสบนิดๆ บางทีก็ปวดหน่วงๆตรงหัวเหน่าครับ วันนนี้ผมลองช่งยตัวเองดู ทั้งปวดทั้งแสบตอนน้ำอสุจิหลั่งออกมา ตอนนี้ก็แสบมากดลยครับ ผมพยายามรีดอวัยวะเพศ แต่ก็ไม่มีหนองออกมานะครับ หรือว่ามันพึ่งแสบเลยยังไม่มีหนอง ไข้ก็ไม่มีแล้วครับ ปวดหัวนิดหน่อย ช่วงหลังๆปัสสาวะเหมือนไม่สุดด้วยครับ ปวดหน่วงๆตอนท้าย แล้วจะออกมากระปริดกระปอย ตอนนั้นยังไม่แสบนะครับ ถ้าผมบีบอวัยวะเพศหลังปัสสาวะถึงจะรู้สึกแสบ แต่ตอนนนี้แสบตลอดเวลาเลยครับ หลังผมช่วยตัวเอง ผมควรทำอย่างไรครับ ถ้าผมจะซื้อยากินเองจะได้ไหมครับ วันนี้ลองตรวจ HIV ตรวจแบบ strip test ได้ผล Negative. Syphilis ก็ Negative. ตอนนี้ผมกังวลว่า ผมเป็นแค่ท่อปัสสาวะอักเสบ หรือผมเป็นหนองในเทียมครับ
อายุ: 28 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 57 กก. ส่วนสูง: 172ซม. ดัชนีมวลกาย : 19.27 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

1 กรกฎาคม 2561 17:01:21 #2

  • อาการปัสสาวะแสบและหน่วงๆ แสดงว่าอาจจะเกิดการอักเสบของระบบทางเดินปัสสาวะ ซึ่งแบ่งเป็น 1 ร่วมกับการมีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ น่าจะเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือกามโรค ที่พบบ่อยคือ หนองใน (แท้) เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่เรียกว่า ไนซีเรีย โกโนคอคไค จะมีหนองและปัสสาวะแสบขัด สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ) ที่ดีที่สุดคือยาฉีด ceftriaxone 250 mg ฉีดเข้ากล้ามเนื้อเข็มเดียว ได้ผลร้อยละ 95 ขึ้นไปครับ ส่วนหนองในเทียม เกิดจากเชื้อหลายชนิด ที่พบมากคือเชื้อคลามัยเดียและมัยโคพลาสมา ที่สำคัญคือประมาณ 10 % ยังไม่ทราบสาเหตุ อาการจะรุนแรงน้อยกว่าหนองในแท้ รักษาโดยให้ยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ)ที่ได้ผลดีคือ ด็อกซี่ซัยคลีน หรือ อิริโทรมัยซิน กินประมาณ 1-2 อาทิตย์ ในปัจจุบันมียาที่กินครั้งเดียว คือ อะซิโทรมัยซิน 1 กรัม แต่จะได้ผลน้อยกว่า ในกรณีที่เป็นๆหายๆ โดยทั่วไปมักเกิดจากการไปติดเชื้อใหม่ จากคู่นอน เพราะฉะนั้น
  • ต้องรักษาทั้งคู่ครับ อย่างไรก็ตามพบว่าประมาณร้อยละ 50 อาจมีการติดเชื้อร่วมกัน คือเป็นทั้งหนองในแท้และเทียม ก็ต้องรักษาทั้ง 2 โรคคือ ทั้งฉีดและกิน 2 ไม่มีความเสี่ยง ระบบทางเดินปัสสาวะอักเสบเกิดจากเชื้อแบคทีเรียอื่น เช่นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ นิ่วในไต เป็นต้น ในกรณีของคุณ แนะนำหาหมอเพื่อตรวจดูว่ามีเชื้อหนองในหรือหนองในเทียมหรือเป็นการติดเชื้อแบคทีเรียทั่วไป