กระดานสุขภาพ
| สงสัยว่าเป็นหนองในหรือ อวัยวะเพศอักเสบ | |
|---|---|
|
12 มิถุนายน 2561 13:09:02 #1 ก่อนที่ผมจะมีsex กับแฟน ไม่มีอาการใดๆเลย มีคันอวัยวะเพศ นิดหน่อย นิดเดียวจริงๆ พอมีsexกับแฟน ผมก็รู้สึกเจ็บๆอวัยวะเพศ นิดนึงแต่ก็ยังทำต่อ เพราะถุงยางที่ใช้เป็นถุงยางลดความรู้สึก พอเสร็จจากมีsex ไปฉี่ กลับแสบปลายท่อปัสสวะแต่ยังไม่มีหนองน่ะครับ พอตกดึกผมคันๆปลายอวัยวะเพศ ลองเอามือไปถูดู เจอหนองขาวขุนออกเหลือง เป็นเหมือนมูกๆเหมือนขี้มูก แต่ไม่เยอะมมาก นิดเดียวจริงๆครับ ผ่านไป3 วัน ตอนนี้มีอาการคันปลายอวัยวะเพศ ฉี่แสบบ้างไม่แสบบ้าง มีหนองที่เป็นมูกๆออกมาแต่ไม่เยอะมากไม่บ่อย ไม่เยอะ เลยอยากทราบว่า ผมเป็นหนองในรึป่าวครับ หรือแค่มีsexรุนแรงไปจนอักเสบ |
|
| อายุ: 19 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 56 กก. ส่วนสูง: 165ซม. ดัชนีมวลกาย : 20.57 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
Noom*****g |
13 มิถุนายน 2561 08:04:49 #2 ตอนนี้มีอาการเจ็บบ้าง บางเวลา อาจมีคนบ้างนิดหน่อยคับ ปัสสวะแสบเหมือนเดิมกับหมีหนองไหลออกมาเป็นช่วงๆ
|
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง |
13 มิถุนายน 2561 19:54:44 #3 ถ้าทั้งตัวคุณและแฟน ต่างก็ไม่มีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ คือ ไม่ได้มีเพศสัมพันธุ์กับคนอื่นหรือมีก็ใช้ถุงยางทุกครั้ง อาการที่เล่ามาน่าจะเกิดจากการระคายเคืองสารที่มาสัมผัส เช่น สบู่ เจลอาบน้ำ น้ำยาต่างๆที่ใช้บริเวณนี้ สารในถุงยาง การเสียดสีจากการร่วมเพศ ร่วมกับความอับชื้น จึงเป็นผื่นแดงๆและค่อนข้างแห้ง และอาจมีเชื้อราร่วมด้วยทำให้เป็นคราบขาวๆหรือผิวเปื่อยยุ่ย แนะนำให้ทำความสะอาดด้วยสบู่อ่อนๆ เช่นสบู่เด็ก ล้างเบาๆแล้วซับให้แห้งด้วยผ้านุ่มๆ ทายาที่มีส่วนผสมของยาแก้แพ้ชนิด triamcinolone 0.02% + ยาเชื้อรา clotimazoleทาบางๆ เช้าและก่อนนอนหลังอาบน้ำ น่าจะดีขึ้นใน 5-7 วัน ส่วนอาการปัสสาวะแสบถ้ามีหนองออกจากท่อปัสสาวะ แสดงว่ามีการอักเสบแบ่งเป็น 1 ร่วมกับการมีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ น่าจะเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือกามโรค ที่พบบ่อยคือ หนองใน (แท้) เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่เรียกว่า ไนซีเรีย โกโนคอคไค สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ) ที่ดีที่สุดคือยาฉีด ceftriaxone 250 mg ฉีดเข้ากล้ามเนื้อเข็มเดียว ได้ผลร้อยละ 95 ขึ้นไปครับ ส่วนหนองในเทียม เกิดจากเชื้อหลายชนิด ที่พบมากคือเชื้อคลามัยเดียและมัยโคพลาสมา ที่สำคัญคือประมาณ 10 % ยังไม่ทราบสาเหตุ รักษาโดยให้ยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ)ที่ได้ผลดีคือ ด็อกซี่ซัยคลีน หรือ อิริโทรมัยซิน กินประมาณ 1-2 อาทิตย์ ในปัจจุบันมียาที่กินครั้งเดียว คือ อะซิโทรมัยซิน 1 กรัม แต่จะได้ผลน้อยกว่า ในกรณีที่เป็นๆหายๆ โดยทั่วไปมักเกิดจากการไปติดเชื้อใหม่ จากคู่นอน ซึ่งในผู้หญิงไม่ค่อยมีอาการผิดปกติและไม่รู้ว่าเป็นโรค เพราะฉะนั้นต้องรักษาทั้งคู่ครับ อย่างไรก็ตามพบว่าประมาณร้อยละ 50 อาจมีการติดเชื้อร่วมกัน คือเป็นทั้งหนองในแท้และเทียม ก็ต้องรักษาทั้ง 2 โรคคือ ทั้งฉีดและกิน 2 ไม่มีความเสี่ยง ระบบทางเดินปัสสาวะอักเสบเกิดจากเชื้อแบคทีเรียอื่น เช่นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ นิ่วในไต เป็นต้น โดยสรุป ถ้าไม่มีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ ก็อาจจะเกิดจากการแพ้หรือการระคายเคืองแต่ถ้ามีความเสี่ยง ก็อาจจะเป็นกามโรค แนะนำหาหมอครับ |
Noom*****g |
15 มิถุนายน 2561 17:16:52 #4 ไปหาหมอมาแล้วครับ สรุปว่าเป็นหนองใน ผมสงสัยมาก ทำไมผมถึงเป็น ถุงยางผมมั่นใจใส่มาตลอด3ปีทุกครั้ง ที่มีSexกลับมาเป็นเพราะมีเซ็กครั้งเดียว |
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง |
16 มิถุนายน 2561 02:24:12 #5 การรวจยืนยันว่าเป็นหนองใน สำหรับผู้ชาย จะใช้วิธีเก็นหนองจากในท่อปัสสาวะ นำไปย้อมสีเพื่อตรวจดูด้วยกล้องจุลทรรศน์ จะพบเชื้อหนองใน ปัจจุบัน อาจจะมีวิธีอื่น เช่นการตรวจสารพันธุกรรม แต่ราคาแพง โรคหนองในต้องเกิดจากการติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือการทำออรัลเซ็กส์ที่ไม่ได้มีการป้องกันโดยการใช้ถุงยางอนามัยครับ ไม่สามารถเป็นเองได้ |
Noom*****g