กระดานสุขภาพ
เป็นตุ่มแข็งๆที่อวัยวะเพศ | |
---|---|
17 กุมภาพันธ์ 2561 15:25:02 #1 อาการคือเป็นตุ่มแข็งๆที่อวัยวะเพศ บวมแดงคล้ายสิวแต่ไม่ใช่สิว แข็งเป็นก้อน เป็นมาได้ประมาน 2-3 วันแล้วครับ มันเริ่มใหญ่ขึ้นจากวันแรก เวลาโดนจะรู้สึกเจ็บๆ แต่ถ้าปล่อยไว้ไม่รู้สึกอะไรเลยครับ อยากทราบว่ามันเป็นโรคอะไร เกิดจากอะไร แล้วรักษายังไงครับ |
|
อายุ: 19 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 63 กก. ส่วนสูง: 172ซม. ดัชนีมวลกาย : 21.30 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง |
18 กุมภาพันธ์ 2561 04:53:43 #2 ตุ่มที่เกิดขึ้นที่บริเวณอวัยวะเพศ ถ้าไม่มีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ คือ ยังไม่เคยร่วมเพศหรือเคยแต่ใช้ถุงยางทุกครั้ง ก็ไม่เป็นโรคติดต่อ อาจจะเกิดจาก 1. การอักเสบของต่อมใต้ผิวหนังคล้ายกับการเกิดสิว ให้กินยาแก้อักเสบ เช่น dicloxacillin ครั้งละ 250 มิลลิกรัม วันละ 4 ครั้งก่อนอาหารและก่อนนอนประมาณ 2 อาทิตย์ 2. ซีสต์หรือถุงน้ำหรือถุงไขมันใต้ผิวหนัง ถ้าไม่เจ็บ ไม่มีเลือดออกหรือไม่มีการอักเสบ ก็ไม่ต้องทำอะไร อาจจะยุบเองได้ แต่ถ้าใหญ่ขึ้น เจ็บ อักเสบ อาจจะต้องเลาะออก 3. โรคผิวหนังที่เกิดจากการแพ้ เกา จนเป็นตุ่ม หรือโรคผิวหนังอื่นๆ แต่ถ้ามีความเสี่ยง เช่น มีคู่นอนหลายคน ไม่ใช้ถุงยางอนามัย ก็อาจเป็นโรคติตต่อ เช่น หูดหงอนไก่ หูดหงอนไก่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์ที่พบได้บ่อยขึ้น เกิดจากเชื้อไวรัส Human Papilloma Virus (HPV) การรักษาคือใช้ยา podophyllin หรือ trichloracetic acid จึ้อาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง ประมาณ 4-6 อาทิตย์ จี้หรือใช้ไฟฟ้า หรือเลเซอร์ หรืออาจจะเป็นตุ่มที่เป็นโรคผิวหนังที่ติดต่อกันได้ เช่น หิด แต่จะมีอาการคันและมีตุ่มคันตามรอบเอว ง่ามนิ้วร่วมด้วย โดยสรุป ขึ้นกับลักษณะของตุ่มที่เป็นร่วมกับพฤติกรรมทางเพศสัมพันธ์ แนะนำหาหมอหรือส่งรูปถ่ายชัดๆบริเวณที่เป็นและให้ข้อมูลทางเพศสัมพันธ์มาด้วยครับ |
Anonymous |
18 กุมภาพันธ์ 2561 09:37:38 #3 ไม่เคยเปลี่ยนคู่นอน ใช้ทุกยางอนามัยทุกครั้งครับ |
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง |
19 กุมภาพันธ์ 2561 07:35:34 #4 ถ้าไม่มีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ สาเหตุ 1. อักเสบเป็นฝี 2. ซีสต์หรือถุงน้ก 3. โรคผิวหนังอื่นๆ ตามที่ได้ตอบไปแล้ว แนะนำหาหมอหรือส่งรูปถ่ายชัดๆมาให้ดูเพิ่มเติมครับ |
Anonymous |
19 กุมภาพันธ์ 2561 08:56:36 #5 |
Anonymous |
19 กุมภาพันธ์ 2561 09:08:36 #6 เป็นตรงนี้ด้วยครับ |
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง |
20 กุมภาพันธ์ 2561 23:43:36 #7 ดูจากรูปที่ส่งมา อาจจะเกิดจากการอักเสบของต่อมใต้ผิวหนัง อย่างไรก็ตามเนื่องจากเป็นตุ่มแข็งและไม่เจ็บ ก็อาจจะต้องระวังหรือสงสัยว่าอาจจะเป็นแผลซิฟิลิส ซึ่งพบได้ว่าสามารถติดต่อจากการทำออรัลเซ็กส์ที่ไม่ใช้ถุงยาง ซิฟิลิสเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบได้บ่อยขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย จะมีโอกาสพบบ่อยกว่าชายทั่วไป แบ่งเป็น 1.แผลริมแข็งหรือระยะที่ 1 รักษาโดยฉีดยา benzathine 2.4 ล้านยูนิต ครั้งเดียว 2. ระยะที่ 2 มีอาการผื่นขึ้นตามตัวไม่คัน ผมร่วงเป็นต้น รักษาโดยฉีดยา benzathine 2.4 ล้านยูนิต ครั้งเดียว 3.ระยะแฝง ไม่มีอาการ รักษาโดยฉีดยา benzathine 2.4 ล้านยูนิต 3 ครั้งติดต่อกัน (อาทิตย์ละ 1 เข็ม) โดยสรุป แนะนำหาหมอครับ |
Anonymous