กระดานสุขภาพ
สอบถามความเสี่ยงครับ | |
---|---|
18 พฤศจิกายน 2560 17:13:45 #1 ก่อนอื่นต้องบอกคุณหมอก่อนเลยครับว่าผมไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ หรือไปมีความเสี่ยงอะไรมาก่อนเลยครับ เรื่องที่ผมจะมาถามคุณหมอคือ เมื่อวานไปนัดสังสรรค์กับเพื่อนครับ แล้วเพื่อนผมได้นั่งข้างเพื่อนผมคนหนึ่งที่ปกติแล้วชอบไปเที่ยวผู้หญิง แต่เค้าบอกป้องกันตลอด แต่ผมก็ไม่ได้เชื่อ100เปอร์เซ็นต์ครับ แล้วทีนี่คือเค้าบอกว่ามีเลือดออกในปาก แล้วผมนั่งข้างๆเค้า ถ้าสมมติว่าเพื่อนของผมมีเชื้อแล้วผมเผลอหยิบแก้วเดียวกับเค้าแล้วดื่มจะสามารถติดต่อโรคอะไรได้บ้างหรือไม่ครับ ผมมีแผลร้อนใน แล้วก็เป็นทอนซิลอักเสบเมื่อเดือนก่อน ตอนนี้ยังเจ็บคออยู่นิดหน่อยครับ ไม่มีแผลแบบเลือดออกครับ(แต่ผมคิดว่าผมดูดีแล้วว่าไม่น่าจะกินแก้วเดียวกัน เพราะมีช่วงหนึ่งที่ผมไม่มั่นใจผมก็หยิบแก้วใหม่เลย หรือไม่ก็ถ้ากินแก้วเดียวกันก็ไม่ได้มีเลือดติดใดๆครับ) แล้วอีกกรณีคือเพื่อนของผมคนนี้เค้าสูบบุหรี่แล้วพ่นควันมาทางแก้วของผม แล้วผมก็กินต่อแบบนี้สามารถติดอะไรได้บ้างมั้ยครับ ผมกังวลมากกับเหตุการณ์ทั้ง2 เลยโทรไปถามทาง1663 2รอบ เจ้าหน้าที่ทั้ง2คนบอกว่าไม่เสี่ยงครับ คุณหมอคิดว่ายังไงบ้างครับ ขอบพระคุณคุณหมอมากครับ |
|
อายุ: 23 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 75 กก. ส่วนสูง: 179ซม. ดัชนีมวลกาย : 23.41 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง |
19 พฤศจิกายน 2560 05:30:15 #2 สำหรับการติดต่อของโรคเอดส์ 1. มีการร่วมเพศโดยไม่ใช้ถุงยางกับคนที่ติดเชื้อเอดส์ 2. ใช้เข็มฉีดยาร่วมกับคนที่ติดเชื้อเอดส์ 3. ได้รับเลือดบริจาคที่มีเชื้อเอดส์ และ 4 ติดเชื้อจากแม่ที่ติดเชื้อเอดส์ขณะตั้งครรภ์ สำหรับการติดต่อโดยเพศสัมพันธ์นั้น โดยหลักการคือต้องมีการสัมผัสสารคัดหลั่งหรือเลือดที่มีเชื้อเอดส์อยู่ เชื้อเอดส์จะเข้าสู่ร่างกายผ่านเซลล์ที่อยู่บริเวณหนังที่เป็นเยื่อบุอ่อนแล้วมีการแบ่งตัวเข้าสู่กระแสเลือดทำให้มีการติดเชื้อเกิดขึ้น ในกรณีที่คุณถามมาไม่มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อเอดส์ ซึ่งการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การกินข้าว การทำงาน การเรียนหนังสือ การใช้ห้องน้ำ การสวมกอด ไม่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อเอดส์ ถ้าสงสัยหรือคุณมีความเสี่ยงตามข้อ 1-4 ก็สามารตรวจเลทอดเอดส์ได้โดยใช้สิทธิบัตรทองหรือประกันสังคม ไม่ต้องเสียค่าตรวจครับ แนะนำให้ตรวจด้วยวิธีที่ใช้กันทั่วไป คือ GEN 4 ซึ่งเป็นการตรวจแอนติเจนและแอนติบอดี สามารถตรวจได้หลังมีความเสี่ยงประมาณ 3-4 อาทิตย์ ถ้าผลเป็นลบ ก็แสดงว่าไม่ติดเชื้อ แต่ควรตรวจซ้ำหลังเสี่ยงครบ 3 เดือน ซึ่งถ้าผลเป็นลบ ก็ไม่ติดเชื้อ |
Anonymous |
19 พฤศจิกายน 2560 06:19:14 #3 แล้วกรณีผมนี่ต้องไปตรวจหรือไม่ครับ คือผมไม่จำเป็นต้องไปตรวจใช่มั้ยครับถ้าไม่มีความเสี่ยง ขอบพระคุณมากครับ |
Anonymous |
20 พฤศจิกายน 2560 07:12:13 #4 รบกวนคุณหมอช่วยตอบผมหน่อยนะครับ ขอบคุณมากครับ |
Haamor Admin(Admin) |
20 พฤศจิกายน 2560 07:29:45 #5
|
Anonymous