กระดานสุขภาพ
ต่อมน้ำเหลืองขาหนีบ | |
---|---|
28 ตุลาคม 2560 11:43:48 #1 สวัสดีค่ะคุณหมอ ช่วงวันที่ 6 กันยาที่ผ่าน ได้มีประจำเดือนมาได้ประมาน 3 วันแล้ว เป็นการปวดประจำเดือนที่ปวดท้องหนักมากๆเท่าที่เคยจะเป็น แล้ววันที่6 จู่ๆรู้สึกปวดที่ขาหนีบ พอคลำดูรู้สึกปวดๆ เลยไปซื้อยามากิน ได้ยาแก้ปวดกับอักเสบมากิน หายปวดแต่ต่อมน้ำเหลืองไม่ยุบไป หลังจากนั้นได้เปิดดูในอินเตอเน็ต ก็มีทั้งโรคติดต่อทางเพศ โรคมะเร็ง การอักเสบของขาและเท้า ซึ่งตอนนั้นไม่มีการอักเสบ มีแต่เพียงรอยจ้ำเขียวๆดำๆวงใหญ่ๆที่ขา ปวดนิดๆเท่านั้น หลังจากนั้นวันที 4 ตค.ได้ไปหาหมอ กินยาแต่ยังไม่ยุบ แต่ไม่มีอาการปวด ต่อมก็ไม่ได้โตขึ้นหมอบอกขนาดไม่ถึง 1 ซม. แต่เจอเหนือขาหนีบขึ้นมาอีกเม็ด และขนาดเท่าเม็ดถั่วเขียวอยู่บริ้วณด้านล่างไปอีก เกือบใกล้ๆก้น และข้างซ้ายตอนแรกไม่มีแต่ไปคลำหาบ่อยๆเหมือนมันปวดๆ ละมีขึ้นมาอีกเม็ดเท่าเม็ดถั่วเขียว หลังจากนั้น วันที่ 9 ได้ไปหาหมอ รพ.อีกหมอก็ให้ยาฆ่าเชื้อมากินอีกรอบแต่ก็ยังไม่ยุบ หมอให้ตรวจเลือด CBC กับปัสสาสะไป ค่าเลือดปกติ เลยถามหมอเกี่ยวกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันเกี่ยวกับ Hiv หมอบอกหมอว่าไม่น่าเกี่ยวเนื่องจากตัวหนูเองไม่มีกาตกขาวที่มีกลิ่น วันที่13จู่ๆคอบวมขึ้นมาเองด้านซ้ายและข้างหลังด้านขวา วันที่18ได้ไปหาหมอรามาอีกที เนื่องจากคอบวมแต่หมอให้นัดดูอาการ 1 เดือน เลยไปหาหมอเฉพาะทางคลำที่ข้างซ้ายเป็นก้อนไขมัน ด้านขวาเจอต่อมน้ำเหลืองอีก1เม็ดเท้าเม็ดถั้วเขียว แต่ตอนนี้ก็ยังไม่สบายใจกับสิ่งที่ตัวเองเป็น อยากปรึกษาคุณหมอว่า 1.ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโตขึ้นมาเองได้มั้ย เพราะไปกี่หมอได้รับแต่คำตอบว่ามันเกิดขึ้นเองได้ แต่เท่าที่อ่านมามีโอกาสเกิดเองแค่ 0.5-1% ที่เกิดขึ้นมาเอง 2.จำเป็นมั้ยคะว่าจะเกิดจากการติดต่อทางเพศสัมพันธ์โดยติดเชื้อ Hiv เสมอไป ปัจจุบันมีแฟนนะคะคบกันมาปีกว่าๆ แต่แฟนก็ปกติดี 3.เป็นคนน้ำเหลืองไม่ดีตั้งแต่เด็กๆ เวลายุงกัดก็จะเกาจนเป็นแผลถลอกทุกครั้งเกี่ยวมั้ยคะว่าการเกาจะทำให้เกิดเชื้อแบคทีเรียทำให้เกิดต่อน้ำเหลืองที่ขาหนีบ หรือมันจะเกิดได้แค่จากการอักเสบของการเป็นแผลใหญ่ๆ เช่น การฌดนหมากัด ตะปูตำ เท่านั้น 4.รอยจ้ำถือเป็นการอักเสบของการของต่อมน้ำเหลืองขาหนีบได้มั้ย 5.ไม่มีอาการเบื่ออาหาร น้ำหนักลด หรือมีไข้ มีเพียงการแตกลงพิษเมื่อวันที่ 2 ตค. 6.กังวบมากค่ะเรื่องการติดเชื้อทางเพศสัมพัน หมอเองเคยแระนำให้ลองตรสจถ้าไม่สบายใจจริงๆแต่เนื่องจากตอนนั้นยังทำใจไม่ดีพอ 7.อาการที่กล่าวมาจำเป็นมั้ยคะว่าคือการติดเชื้อ Hiv |
|
อายุ: 21 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 57 กก. ส่วนสูง: 157ซม. ดัชนีมวลกาย : 23.12 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง |
29 ตุลาคม 2560 08:03:45 #2 1.ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโตขึ้นมาเองได้มั้ย เพราะไปกี่หมอได้รับแต่คำตอบว่ามันเกิดขึ้นเองได้ แต่เท่าที่อ่านมามีโอกาสเกิดเองแค่ 0.5-1% ที่เกิดขึ้นมาเอง 3.เป็นคนน้ำเหลืองไม่ดีตั้งแต่เด็กๆ เวลายุงกัดก็จะเกาจนเป็นแผลถลอกทุกครั้งเกี่ยวมั้ยคะว่าการเกาจะทำให้เกิดเชื้อแบคทีเรียทำให้เกิดต่อน้ำเหลืองที่ขาหนีบ หรือมันจะเกิดได้แค่จากการอักเสบของการเป็นแผลใหญ่ๆ เช่น การฌดนหมากัด ตะปูตำ เท่านั้น 4.รอยจ้ำถือเป็นการอักเสบของการของต่อมน้ำเหลืองขาหนีบได้มั้ย ตอบ 1,2 และ4 ถ้ามีการอักเสบที่บริเวณอวัยวะเพศหรือระบบสืบพันธื บริเวณขาหรือเท้า ก็จะสามารถทำให้ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโตและอักเสบได้ ในกรณีของคุณถ้าเป็นโรคผิวหนัง คันและเกาก็อาจจะมีการติดเชื้อจากการเกาแลเป็นสาเหตุที่ทำให้ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโตได้ ส่วนรื่องการติดเชื้อเอชไอวีนั้น อาการของการติดเชื้อเอชไอวีซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเอดส์ คือ เมื่อรับเชื้อหรือมีพฤติกรรมเสี่ยงแล้วประมาณ 2-4 อาทิตย์ จะมีอาการคล้ายเป็นไข้หวัดใหญ่ เช่น ไข้สูง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เจ็บคอ ต่อมน้ำเหลืองโต มีผื่นตามตัว คล้ายออกหัด หรือส่าไข้ เป็นต้น หลังจากนั้น อาการต่างๆก็จะหายไป จนเมื่อมีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องซึ่งอาจนานหลายปี (3-5 ปีขึ้นไป) ก็จะเริ่มมีโรคแทรกซ้อน เช่น วัณโรค ปอดอักเสบ ตุ่มคันตามตัว แขนขา (PPE) น้ำหนักลด ท้องเสียเรื้อรัง ซึ่งสามารถยืนยันว่ามีการติดเชื้อหรือไม่โดยการตรวจเลือด อย่างไรก็ตามอาการที่กล่าวมาอาจจะคล้ายคลึงกับโรคอื่นๆ และในบางคนก็อาจจะมีอาการน้อยมากหรืออาจจะมีการติดเชื้อโดยไม่รู้ตัวหรือไม่มีอาการอะไรเลยก็ได้ เพราะฉะนั้น ถ้ามีความเสี่ยงหรือคู่นอนมีความเสี่ยง แนะนำตรวจเลือด วิธีที่ตรวจได้เร็วที่สุดหลังมีความเสี่ยงคือการตรวจด้วยด้วยวิธี NAAT คือการตรวจส่วนของเชื้อไวรัสเอชไอวีสามารถตรวจได้เร็วขึ้น คือประมาณ 1 อาทิตย์หลังมีความเสี่ยง แต่จะมีตรวจเฉพาะห้องแล็บใหญ่ๆและมักใช้ในงานวิจัย เนื่องจากมีราคาแพง แนะนำให้ตรวจด้วยวิธีที่ใช้กันทั่วไป คือ GEN 4 ซึ่งเป็นการตรวจแอนติเจนและแอนติบอดี สามารถตรวจได้หลังมีความเสี่ยงประมาณ 3-4 อาทิตย์ ถ้าผลเป็นลบ ก็แสดงว่าไม่ติดเชื้อ สามารถใช้สิทธิบัตรทองหรือประกันสังคม ไม่ต้องเสียค่าตรวจ |
Anonymous |
29 ตุลาคม 2560 08:18:24 #3
ขอบคุณค่ะคุณหมอ สบายใจขึ้นมามากมีกำลังใจที่จะลองไปตรวจเลือดดู กำลังทำใจจะลองไปตรวจที่คลีนิคนิรนามดูค่ะ
|
Anonymous