กระดานสุขภาพ
คันหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชาย | |
---|---|
14 กันยายน 2560 04:30:34 #1 เคยเป็นเชื้อราในร่มผ้าคับ เป็นตรงขาหนีบ ทายาแล้วอาการเหล่านั้นก็หายไป แต่กลับมาคันที่หนังหุ้มปลายอวัยวะเพศคัด้านนอกคับ คันมากคับ อาการเหล่านี้ใช่เชื้อราไหมคับ |
|
อายุ: 23 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 64 กก. ส่วนสูง: 179ซม. ดัชนีมวลกาย : 19.97 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง |
15 กันยายน 2560 09:44:25 #2 อาการคันที่บริเวณอวัยวะเพศ สาเหตุ 1. เชื้อรา มักจะพบในคนที่มีเหงื่อออกมาก เช่นนักกีฬา หรือคนที่ทำงานกลงแจ้ง ใส่ชุดที่อับชื้น รักษาโดยการใช้ยาทาหรือยากินเชื้อรา เช่น clotrimazoleหรือ Iitraconazole ใช้เวลาประมาณ 4-6 อาทิตย์ ก็จะหาย เมื่อหายแล้วต้องระวังเรื่องสุขอนามัย เช่นอาบน้ำเช้าเย็น ใส่ชุดชั้นในที่แห้งและสะอาด ถ้าชุดชั้นในอับชื้นหรือมีเหงื่ออก ต้องรับอาบน้ำและเปลี่ยนชุดโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นก็อาจจะเป็นอีก 2. แพ้หรือระคายเคืองสารที่สัมผัส ทำให้คันและเกาจนเป็นผื่น รักษาโดยกินยาแก้แพ้ เช่น atarax ครั้งละ 10 มิลลิกรัม เช้าเย็น ทายาแก้แพ้ เช่น betamethasone หรือ อาจจะเป็นทั้งแพ้และเชื้อราร่วมกัน แนะนำหาหมอ อาจจะต้องมีการขูดผิวหนังเพื่อดูว่ามีเชื้อราหรือไม่ 3. โรคผิวหนังอื่นๆ เช่น หิด ซึ่งเป็นโรคผิวหนังที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือการสัมผัสอย่างใกล้ชิด นอกจากมีตุ่มบริเวณอวัยวะเพศแล้ว มักจะมีตุ่มคันที่หน้าท้อง รอบเอว และง่ามนิ้วมือ รักษาโดยให้อาบน้ำ ฟอกสบุ่ให้สะอาด ใช้ยา hexin ทาทั่วตัวตั้งแต่คอลงมา ถึงปลายมือปลายเท้า ทิ้งไว้ 24 ชม. ถ้าอาบน้ำค้องทาซ้ำ หลังจากนั้น รอจนครบ 1 อาทิตย์ ให้ทาซ้ำอีก 1 ครั้ง ให้รักษาคนที่อยู่ใกล้ชิด นอนเตียงเดียวกัน และทำความสะอาดเครื่องนอน หมอน ผ้าห่ม
|
Cchj*****i