กระดานสุขภาพ

มีตุ่มแดงขึ้นที่อวัยะเพศครับ
Akum*****u

11 กันยายน 2560 06:44:58 #1

มีตุ่มแดงขั้นที่อวัยะเพศและบริเวณรอบอวัยวะเพศเหมือนเห่อแดงขึ้นมาและคันบริเวณรูปัสสวะครับ เป็นมาวัน2-3วันแล้วเพิ่งจะมาสังเกตุเหตุตุ่มแดง ตามภาพครับ แต่เมือ่คืนได้ทายา โคลธาโซน ครีม (ยาต้านเชื้อรา) ตุ่มยุบลงแต่รอบอวัยะเพศยังเห่อแดงเล็กน้อย แต่ยังคันเหมือนเดิมครับ ควรพบแพทย์หรือใช้ยาตัวไหนแทนครับ

ปล.ถ้ามีอะไรกับแฟนไปแล้วจะเป็นอะไรไหมครับไม่ได้ใส่ถุงยาง (ตอนที่มีอะไรกันยังไม่เห็นว่าเป็นตุ่มแดงครับ)

http://haamor.com/media/images/webboardpics/akumetsu-38265-1.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/akumetsu-38265-2.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/akumetsu-38265-3.jpg

อายุ: 38 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 78 กก. ส่วนสูง: 176ซม. ดัชนีมวลกาย : 25.18 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Akum*****u

11 กันยายน 2560 06:49:59 #2

" alt="" />

Akum*****u

11 กันยายน 2560 06:51:56 #3

ลงรูปไม่เป็นครับ

https://www.uppic.org/image-D0FD_59B62E53.jpg

https://www.uppic.org/image-CF36_59B62E53.jpg

https://www.uppic.org/image-95E1_59B62E53.jpg

Anonymous

11 กันยายน 2560 08:33:39 #4

พอดีผมกำลังหาข้อมูลเรื่องหูดเหมือนกัน จากในรูปผมว่าน่าจะหูดหงอนไก่นะ แต่รอหมอมาตอบนะคับ
Akum*****u

11 กันยายน 2560 10:00:16 #5

หลังจากที่ทายาเมื่อคืนครับ ตุ่มยุบแล้วรอบๆเห่อน้อยลง แต่ยังคันที่บริเวณปลายแถวรูปัสสวะ

https://www.uppic.org/image-BA20_59B65DE0.jpg

https://www.uppic.org/image-E97C_59B65DE0.jpg

https://www.uppic.org/image-E8CC_59B65DE0.jpg

https://www.uppic.org/image-9846_59B65DE0.jpg

 

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

11 กันยายน 2560 19:14:36 #6

ดูจากรูปที่ส่งมา เห็นเป็นผื่นแดงๆที่หนังหุ้มและบริเวณส่วนหัวอวัยวะเพศ ถ้าทั้งตัวคุณและแฟน ต่างก็ไม่มีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ คือ ไม่ได้มีเพศสัมพันธุ์กับคนอื่นหรือมีก็ใช้ถุงยางทุกครั้ง อาการที่เล่ามาน่าจะเกิดจากการระคายเคืองสารที่มาสัมผัส เช่น สบู่ เจลอาบน้ำ น้ำยาต่างๆที่ใช้บริเวณนี้ ร่วมกับความอับชื้น จึงเป็นจุดแดงๆและอาจมีเชื้อราร่วมด้วย แนะนำให้ทำความสะอาดด้วยสบู่อ่อนๆ เช่นสบู่เด็ก ล้างเบาๆแล้วซับให้แห้งด้วยผ้านุ่มๆ ทายาที่มีส่วนผสมของยาแก้แพ้ชนิด triamcinolone 0.02% + ยาเชื้อรา clotimazoleทาบางๆ เช้าและก่อนนอนหลังอาบน้ำ น่าจะดีขึ้นใน 5-7 วัน ในกรณีที่เป็นบ่อยอาจต้องระวังความอับชื้นและงดใช้สารที่สงสัยว่าจะแพ้และถ้าหนังหุ้มยาวเกินไปอาจต้องขลิบเพื่อให้ทำความสะอาดง่ายและไม่อับชื้น การขลิบหนังเป็นการทำศัลยกรรมที่ถือว่าไม่ซับซ้อน แพทย์ศัลยกรรมทั่วไปทำได้ครับ ต้องมีการฉีดยาชา ใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมงน่าจะเสร็จ ถ้ารักษาแผลให้ดี ประมาณ 2-4 อาทิตย์ แผลก็จะหายดี ส่วนแฟน ถ้ามีอาการตกขาว คันในช่องคลอด ก็อาจเป็นเชื้อราด้วย ในกรณีนี้แนะนำตรวจภายใน ถ้าเป็นเชื้อราก็รักษาโดยใช้ยากินหรือยาสอดช่องคลอด แต่ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีความเสี่ยง เช่นเคยมีคู่นอนมาก่อน ไม่ใช้ถุงยางและมีประวัติว่าเคยเป็นแผล ก็อาจจะเป็นเริม จากเชื้อไวรัส Herpes simplex อาการจะเป็นหลังจากที่มีความเสี่ยงประมาณ 5 -10 วัน ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น

มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผลเจ็บและอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต ต้องรักษาโดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (วันละ 5 เม็ด)ประมาณ 1 อาทิตย์ และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อไวรัส Herpes) ไปแฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ เมื่อมีการกระตุ้น เช่นการร่วมเพศ การช่วยตัวเอง ก็จะเป็นซ้ำ โดยอาจมีอาการปวด เสียว บริเวณผิวหนังก่อนที่จะเป็นแผล แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง ในกรณีของคุณ ถ้าเป็นผื่นโดยที่ไม่เป็นตุ่มน้ำหรือเป็นแผล ก็ไม่ใช่เริม โดยสรุป ถ้าแน่ใจว่าไม่มีความเสี่ยง ก็อาจจะเกิดจากการแพ้ร่วมกับเชื้อรา แนะนำหาหมอครับ