กระดานสุขภาพ

เป็นอะไรไม่รู้ที่ปลายอวัยวะเพศอ่ะคับ เป็นรอยแดง ปูดๆยาวๆตรงขอบปัสสาวะ
Anonymous

25 สิงหาคม 2560 15:11:30 #1

คืออาการเริ่มแรกอยู่รู้ๆสึกตึงอวัยวะเพศมากเหมือนจะแตก แน่นแล้วก็เจ็บที่ปลายเส้นสองลึง ต่อมาแสบปลายท่อปัสสาวะมากไปตรวจปัสสาวะไม่ติดเชื้อ แต่แสบจนตัวสั่นเลยทาน clindamycin 3 เวลา ไป 1 เดือนอาการแสบหาย แต่ยังมีอาการคือ ตอนแข็งตัวมันจะปวดๆ และจะใหญ่กว่าตอนขยายตัวปกติ บอกไม่ถูกและเมื่อเสร็จจะแสบๆนิดๆ  เป็นมา 3 เดือนละคับ ตอนนี้ปลายท่อปัสสาวะเหมือนมันนูนๆนิดนึงตรงปลายท่อตามรูปเลยอ่ะคับ 

อายุ: 36 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 80 กก. ส่วนสูง: 182ซม. ดัชนีมวลกาย : 24.15 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Anonymous

25 สิงหาคม 2560 15:13:45 #2

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

26 สิงหาคม 2560 03:56:00 #3

ดูจากรูปที่ส่งมาเห็นเป็นรอยเล็กๆแต่เนื่องจากรูปไม่ค่อยชัด ไม่สามารถเห็นรายะเอียดได้แต่เท่าที่ดูอยู่ในเกณฑ์กติ ส่วนเรื่องระบบทางเดินปัสสาวะอักเสบแบ่งเป็น 1 ร่วมกับการมีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ น่าจะเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือกามโรค ที่พบบ่อยคือ หนองใน (แท้) เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่เรียกว่า ไนซีเรีย โกโนคอคไค สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ) ที่ดีที่สุดคือยาฉีด ceftriaxone 250 mg ฉีดเข้ากล้ามเนื้อเข็มเดียว ได้ผลร้อยละ 95 ขึ้นไปครับ ส่วนหนองในเทียม เกิดจากเชื้อหลายชนิด ที่พบมากคือเชื้อคลามัยเดียและมัยโคพลาสมา ที่สำคัญคือประมาณ 10 % ยังไม่ทราบสาเหตุ รักษาโดยให้ยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ)ที่ได้ผลดีคือ ด็อกซี่ซัยคลีน หรือ อิริโทรมัยซิน กินประมาณ1- 2 อาทิตย์ ในปัจจุบันมียาที่กินครั้งเดียว คือ อะซิโทรมัยซิน 1 กรัม แต่จะได้ผลน้อยกว่า ในกรณีที่เป็นๆหายๆ โดยทั่วไปมักเกิดจากการไปติดเชื้อใหม่ จากคู่นอน ซึ่งในผู้หญิงไม่ค่อยมีอาการผิดปกติและไม่รู้ว่าเป็นโรค เพราะฉะนั้นต้องรักษาทั้งคู่ครับ อย่างไรก็ตามพบว่าประมาณร้อยละ 50 อาจมีการติดเชื้อร่วมกัน คือเป็นทั้งหนองในแท้และเทียม ก็ต้องรักษาทั้งสองโรคคือ ทั้งฉีดและกิน 2 ไม่มีความเสี่ยง ระบบทางเดินปัสสาวะอักเสบเกิดจากเชื้อแบคทีเรียอื่น เช่นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ นิ่วในไต เป็นต้น โดยสรุป ขึ้นอยู่กับเชื้อสาเหคุแะพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ แนะนำหาหมอครับ