กระดานสุขภาพ

มีผื่นแดงที่ปลายอวัยวะเพศครับ
POWE*****5

16 สิงหาคม 2560 03:00:51 #1

มีผื่นแดงที่ปลายอวัยวะเพศครับ อยากทราบว่าเป็นโรคเริมหรือไม่ครับ แต่ส่วนตัวเป็นคนล้างทำความสะอาดแล้วเช็ดไม่แห้งสาเหตุมาจากนี้หรือเปล่าครับ ชอบคุณครับ 

อายุ: 28 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 74 กก. ส่วนสูง: 170ซม. ดัชนีมวลกาย : 25.61 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Hawa*****5

16 สิงหาคม 2560 04:27:38 #2

สีปลายองคชาคิเหมือนผมเลยจะเป็นอะไรป่าวครับ เวลาอาบน้ำใช้สบู่ถูประจำเลย
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

16 สิงหาคม 2560 19:26:14 #3

ถ้าไม่มีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ คือ ยังไม่เคยมีการร่วมเพศหรือเคยแต่ใช้ถุงยางทุกครั้ง อาการที่เล่ามาน่าจะเกิดจากการระคายเคืองสารที่มาสัมผัส เช่น สบู่ เจลอาบน้ำ น้ำนาทำความสะอาด ร่วมกับความอับชื้น จึงเป็นจุดแดงๆและอาจมีเชื้อราร่วมด้วย แนะนำให้ทำความสะอาดด้วยสบู่อ่อนๆ เช่นสบู่เด็ก ล้างเบาๆแล้วซับให้แห้งด้วยผ้านุ่มๆ ทายาที่มีส่วนผสมของยาแก้แพ้ชนิด triamcinolone 0.02% + ยาเชื้อรา clotimazoleทาบางๆ เช้าและก่อนนอนหลังอาบน้ำ น่าจะดีขึ้นใน 5-7 วัน ในกรณีที่เป็นบ่อยอาจต้องระวังความอับชื้นและงดใช้สารที่สงสัยว่าจะแพ้และถ้าหนังหุ้มยาวเกินไปอาจต้องขลิบเพื่อให้ทำความสะอาดง่ายและไม่อับชื้น การขลิบหนังเป็นการทำศัลยกรรมที่ถือว่าไม่ซับซ้อน แพทย์ศัลยกรรมทั่วไปทำได้ครับ ต้องมีการฉีดยาชา ใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมงน่าจะเสร็จ ถ้ารักษาแผลให้ดี ประมาณ 2-4 อาทิตย์ แผลก็จะหายดี ผลดีของการขลิบคือทำความสะอาดง่าย ไม่เป็นแผลเวลาร่วมเพศ มีการศึกษาที่หลายประเทศในทวีปแอฟริกาพบว่าช่วยลดการติดเชื้อเอดส์ได้ประมาณ40% แต่ยังไมมีการศึกษาในประเทศไทย ส่วนเรื่องเริมนั้น เกิดจากเชื้อไวรัส Herpes simplex อาการจะเป็นหลังจากที่มีความเสี่ยงประมาณ 3-7 วัน ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผล เจ็บและอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต ต้องรักษาโดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (วันละ 5 เม็ด)ประมาณ 1 อาทิตย์ และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อไวรัส Herpes) ไป แฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ เมื่อมีการกระตุ้น เช่นการร่วมเพศ การช่วยตัวเอง ก็จะเป็นซ้ำ โดยอาจมีอาการปวด เสียว บริเวณผิวหนังก่อนที่จะเป็นแผล แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง ในกรณีของคุณ ถ้าไม่มีตุ่มน้ำซึ่งจะแตกเป็นแผล เจ็บแสบ ก็ไม่ใช่เริม ถ้าไม่แน่ใจ แนะนำหาหมอหรือส่งรูปถ่ายชัดๆบริเวณที่เป็นและให้ข้อมูลทางเพศสัมพันธ์เพิ่มเติมครับ

POWE*****5

17 สิงหาคม 2560 03:38:42 #4

คุณหมอครับ ผมมีเพศสัมพันธ์ใส่ถุงยางตลอดครับ แต่ตอนออรัลไม่ได้ใส่ถุงยาง มีความเสี่ยงมั้ยครับ มีเพศสัมพันธ์ล่าสุดผ่านมาประมาณ3สัปดาห์ครับ เพิ่งสังเกตุเห็นรอยแดง ไม่เจ็บไม่แสบครับ ปัสสวะไม่ขัด มีรอยแดงเฉยๆครับ มีภาพประกอบนะครับ

http://haamor.com/media/images/webboardpics/Hawaza55-37763.jpg

Anonymous

17 สิงหาคม 2560 06:27:58 #5

ภาพเพิ่มเติมครับคุณหมอ

http://haamor.com/media/images/webboardpics/POWERBOY555-37763.jpg

POWE*****5

17 สิงหาคม 2560 07:14:25 #6

ภาพเพิ่มเติมครับหมอ

http://haamor.com/media/images/webboardpics/POWERBOY555-37763.jpg

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

17 สิงหาคม 2560 10:36:08 #7

ดูจากรูปที่ส่งมา เห็นเป็นรอยแดงๆที่ส่วนหัวอวัยวะเพศ ถ้าไม่แสบและไม่เป็นแผลก็ไม่ใช่เริม อาจจะเดจากการแพ้สารที่ใช้ แนะนำทำความสะอาดและใช้ยาทาตามที่ได้ตอบไปแล้ว ถ้าไม่แน่ใจแนะนำหาหมอ ส่วนการทำออรัลเซ็กส์โดยไม่ใช้ถุงยางถือว่ามีความเสี่ยง ถ้าฝ่ายที่ทำให้มีโรคติดต่ออยู่ เช่นหนองในที่คอหรือเป็นแผลเริมที่ริมฝีปาก เป็นต้น ส่วนความเสี่ยงในการติดเชื้อเอดส์ประมาณ 0.005% สามารตรวจเลือดได้โดยใช้สิทธิบัตรทองหรือประกันสังคม ไม่ต้องเสียค่าตรวจครับ

POWE*****5

17 สิงหาคม 2560 11:06:46 #8

ขอบคุณมากครับคุณหมอ สรุปผมไม่ต้องกังวลใจแล้วใช่มั้ยครับ ว่าจะไม่เป็นโรคติดต่อใดๆทั้งสิ้น

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

18 สิงหาคม 2560 15:38:29 #9

ดูจากรูปและถ้าเป็นผื่นโดยที่ไม่ได้เป็นแผล ก็ไม่ใช่เริม น่าจะเป็นการแพ้สารที่ใช้ร่วมกับเชื้อรา ส่วนเรื่องที่มีความเสี่ยงเช่นการทำออรัลเซ็กส์โดยไม่ใช้ถุงยาง แนะนำว่าควรจะตรวจเลือดเอดส์และซิฟิลิส เพราะอาจจะมีการติดเชื้อโดยที่ไม่มีอาการก็ได้ สามารถใช้สิทธิบัตรทองและประกันสังคม ไม่ต้องเสียค่าตรวจครับ

POWE*****5

21 สิงหาคม 2560 15:43:34 #10

ขอบคุณครับคุณหมอ ควรตรวจหลังเสี่ยงประมาณกี่วันครับ

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

22 สิงหาคม 2560 04:40:18 #11

วิธีที่ตรวจได้เร็วที่สุดหลังมีความเสี่ยงคือการตรวจด้วยด้วยวิธี NAAT คือการตรวจส่วนของเชื้อไวรัสเอชไอวีสามารถตรวจได้เร็วขึ้น คือ

ประมาณ 1 อาทิตย์หลังมีความเสี่ยง แต่จะมีตรวจเฉพาะห้องแล็บใหญ่ๆและมักใช้ในงานวิจัย เนื่องจากมีราคาแพง แนะนำให้ตรวจด้วยวิธีที่ใช้กันทั่วไป คือ GEN 4 ซึ่งเป็นการตรวจแอนติเจนและแอนติบอดี สามารถตรวจได้หลังมีความเสี่ยงประมาณ 3-4 อาทิตย์ ถ้าผลเป็นลบ ก็แสดงว่าไม่ติดเชื้อ แต่ควรตรวจซ้ำหลังเสี่ยงครบ 3 เดือน ซึ่งถ้าผลเป็นลบ ก็ไม่ติดเชื้อเอดส์แน่นอน