กระดานสุขภาพ
แผลที่หนังอวัยวะเพศ และถุงอันฑะ | |
---|---|
10 กรกฎาคม 2560 08:17:37 #1 เป็นแผลที่หนังอวัยวะเพศ และถุงอันฑะครับมีอาการคันบ้างเป็นบางเวลา ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับที่ตอนนี้แพ้แอลกอฮอล์รึเปล่าเพราะตอนนี้มีปื่นแดงๆ ตามลำตัว และฝ่าเมือและเท้าก็ลอก อยากทราบว่าเป็นโรคอะไร ต้องรักษายังไงครับ http://haamor.com/media/images/webboardpics/rachan555-37062-1.JPG http://haamor.com/media/images/webboardpics/rachan555-37062-2.JPG http://haamor.com/media/images/webboardpics/rachan555-37062-3.JPG |
|
อายุ: 20 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 65 กก. ส่วนสูง: 170ซม. ดัชนีมวลกาย : 22.49 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง |
11 กรกฎาคม 2560 18:11:37 #2 ดูจากรูปที่ส่งมา เห็นเป็นผื่นแห้งๆหลายแห่งที่บริเวณลูกอัณฑะและที่อวัยวะเพศ และจากที่เล่าว่ามีผื่นตามตัวรวมทั้งที่ฝ่ามือฝ่าเท้า ถ้าคุณมีพฤติกรรมเสี่ยง คือมีคู่นอนหลายคน ไม่ใช้ถุงยางโดยเฉพาะถ้ามีประวัติเป็นชายรักร่วมเพศ ก็อาจจะเป็นผื่นของซิฟิลิสระยะที่สอง ซิฟิลิสเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบได้บ่อยขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย จะมีโอกาสพบบ่อยกว่าชายทั่วไป แบ่งเป็น 1.แผลริมแข็งหรือระยะที่ 1 รักษาโดยฉีดยา benzathine 2.4 ล้านยูนิต ครั้งเดียว 2. ระยะที่ 2 มีอาการผื่นขึ้นตามตัว อวัยวะเพศ ฝ่ามือฝ่าเท้า และมักจะไม่คัน หรืออาจจะมีผมร่วงเป็นต้น รักษาโดยฉีดยา benzathine 2.4 ล้านยูนิต ครั้งเดียว 3.ระยะแฝง ไม่มีอาการ รักษาโดยฉีดยา benzathine 2.4 ล้านยูนิต 3 ครั้งติดต่อกัน (อาทิตย์ละ 1 เข็ม) สามารถตรวจเลือด RPR หรือ VDRL และยืนยันด้วยวิธี TPHA และควรตรวจเลือดเอดส์ด้วย เพราะมีโอกาสที่จะติดเชื้อร่วมกันได้ สามารถใช้สิทธิบัตรทองหรือประกันสังคมโดยไม่ต้องเสียค่าตรวจ แต่ถ้าคุณไม่มีความเสี่ยง คือ ยังไม่เคยร่วมเพศหรือเคยแต่ใช้ถุงยางทุกครั้ง ก็อาจจะเป็นโรคผิวหนัง เช่น 1. เชื้อรา มักจะพบในคนที่มีเหงื่อออกมาก เช่นนักกีฬา หรือคนที่ทำงานกลางแจ้ง ใส่ชุดที่อับชื้น รักษาโดยการใช้ยาทาหรือยากินเชื้อรา เช่น clotrimazoleหรือ itraconazole ใช้เวลาประมาณ 4-6 อาทิตย์ ก็จะหาย เมื่อหายแล้วต้องระวังเรื่องสุขอนามัย เช่นอาบน้ำเช้าเย็น ใส่ชุดชั้นในที่แห้งและสะอาด ถ้าชุดชั้นในอับชื้นหรือมีเหงื่ออก ต้องรับอาบร้ำและเปลี่ยนโดยเร้ว ไม่เช่นนั้นก็อาจจะเป็นอีก 2. แพ้หรือระคายเคืองสารที่สัมผัส ทำให้คันและเกาจนเป็นผื่น รักษาโดยกินยาแก้แพ้ เช่น atarax ครั้งละ 10 มิลลิกรัม เช้าเย็น ทายาแก้แพ้ เช่น betamethasone หรือ อาจจะเป็นทั้งแพ้และเชื้อราร่วมกัน อาจจะต้องมีการขูดผิวหนังเพื่อดูว่ามีเชื้อราหรือไม่ 3. การแพ้ยากินบางประเภท เช่น ยาแก้อักเสบ เป็นต้น 4. โรคผิวหนังอื่นๆ โดยสรุป ขึ้นกับพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ ถ้ามีความเสี่ยง ก็อาจจะเป็นซิฟิลิส แนะนำหาหมอครับ |
Rach*****5