ตุ่มที่เกิดขึ้นที่บริเวณลูกอัณฑะ ถ้าไม่มีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ คือ ยังไม่เคยร่วมเพศหรือเคยแต่ใช้ถุงยางทุกครั้ง ก็ไม่เป็นโรคติดต่อ อาจจะเกิดจาก 1. การอักเสบของต่อมใต้ผิวหนังคล้ายกับการเกิดสิว ให้กินยาแก้อักเสบ เช่น dicloxacillin ครั้งละ 250 มิลลิกรัม วันละ 4 ครั้งก่อนอาหารและก่อนนอนประมาณ 2 อาทิตย์ 2. ซีสต์หรือถุงน้ำหรือถุงไขมันใต้ผิวหนัง ถ้าไม่เจ็บ ไม่มีเลือดออกหรือไม่มีการอักเสบ ก็ไม่ต้องทำอะไร อาจจะยุบเองได้ แต่ถ้าใหญ่ขึ้น เจ็บ อักเสบ อาจจะต้องเลาะออก 3. โรคผิวหนังที่เกิดจากการแพ้ เกา จนเป็นตุ่ม หรือโรคผิวหนังอื่นๆ แต่ถ้ามีความเสี่ยง เช่น มีคู่นอนหลายคน ไม่ใช้ถุงยางอนามัย ก็อาจเป็นโรคติตต่อ เช่น หูดหงอนไก่ หูดหงอนไก่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์ที่พบได้บ่อยขึ้น เกิดจากเชื้อไวรัส Human Papilloma Virus (HPV) การรักษาคือใช้ยา podophyllin หรือ trichloracetic acid จึ้อาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง ประมาณ 4-6 อาทิตย์ จี้หรือใช้ไฟฟ้า หรือเลเซอร์ หรืออาจจะเป็นตุ่มที่เป็นโรคผิวหนังที่ติดต่อกันได้ เช่น หิด แต่จะมีอาการคันและมีตุ่มคันตามรอบเอว ง่ามนิ้วร่วมด้วย โดยสรุป ขึ้นกับลักษณะของตุ่มที่เป็นร่วมกับพฤติกรรมทางเพศสัมพันธ์ แนะนำหาหมอหรือส่งรูปถ่ายชัดๆบริเวณที่เป็นและให้ข้อมูลทางเพศสัมพันธ์มาด้วยครับ

http://haamor.com/media/images/webboardpics/eeead-37040.jpg

ดูจากรูปที่ส่งมา เห็นเป็นตุ่มขนาด 1-2 ซม.ที่บริเวณหนังหุ้มลูกอัณฑะ ลักษณะคล้ายกับเป็นถุงไขมันที่เรียกว่า sebaceous cyst ถ้าไม่เจ็บ ไม่มีเลือดออกหรือไม่มีการอักเสบ ก็ไม่ต้องทำอะไร อาจจะยุบเองได้ แต่ถ้าใหญ่ขึ้น เจ็บ อักเสบ อาจจะต้องเลาะออกหรือใช้เลเซอร์ แนะนำหาหมอผิวหนังหรือศัลยกรรมครับ

กราบขอบคุณคุณหมอมากนะครับ เป็นไปได้ไหมว่า ผมชอบไปบียไปขยี้ และก้อนนั่นอักเสปเลยทำให้ขยายตัวขึ้น ถ้าผมลดการสัมผัส การบีบ การขยี้ และทานยาอก้อักเสป มันจะมีโอกาสยุปไหมครับ

อาจจะเกิดจากการอุดตันของต่อมไขมัน ถ้าไม่ขยี้ ไม่ใหญ่ขึ้น ไม่เจ็บ ไม่มีหนองหรือเลือดออก ก็อาจจะไม่ต้องผ่าออก ลองไปให้หมอศัลยกรรมตรวจดูว่าต้องตัดหรือเลาะออกหรือไม่

ขอบคุณมากครับคุณหมอ