กระดานสุขภาพ
มีตุ่มอยู่ตรงรอบรูทวารอ่ะคับ | |
---|---|
20 พฤษภาคม 2560 07:31:12 #1 คือผมมีเชื้อเอชไอวี แล้วผมมีตุ่มเหมือนหงอนไก่ รอบๆรูทวารหมอ ผมเคยอ่านเจอกระทู้ในเว็บนึ่งอ่ะครับว่า มันเกี่ยวข้องกับเอชไอวี แล้วมันมีอาการคันๆอ่ะครับ ไม่แสบ ไม่เปนแผลที่อยากรู้คือ 1. เกี่ยวกับเอชไอวีที่ผมเปนจริงหรือเปล่า 2.มันอันตรายมากใหมครับ 3.รักษาแล้วมันจะหายใหมครับ แค่นี้ครับ ขอบคุณครับ ผมกลัว!! ที่จริงถ่ายรูปมาน่ะคับแต่แนบรูปไม่เป็น |
|
อายุ: 19 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 62 กก. ส่วนสูง: 175ซม. ดัชนีมวลกาย : 20.24 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง |
22 พฤษภาคม 2560 08:29:20 #2 อาการของการติดเชื้อเอชไอวีซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเอดส์ คือ เมื่อรับเชื้อหรือมีพฤติกรรมเสี่ยงแล้วประมาณ 2-4 อาทิตย์ จะมีอาการคล้ายเป็นไข้หวัดใหญ่ เช่น ไข้สูง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เจ็บคอ ต่อมน้ำเหลืองโต มีผื่นตามตัว คล้ายออกหัด หรือส่าไข้ เป็นต้น หลังจากนั้น อาการต่างๆก็จะหายไป จนเมื่อมีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องซึ่งอาจนานหลายปี (3-5 ปีขึ้นไป) ก็จะเริ่มมีโรคแทรกซ้อน เช่น วัณโรค ปอดอักเสบ ตุ่มคันตามตัว แขนขา (PPE) น้ำหนักลด ท้องเสียเรื้อรัง ในกรณีของคุณที่ติดเชื้อแล้ว ถ้าไม่มีอาการแทรกซ้อนอย่างอื่น ก็จะอยู่ในระยะที่ไม่แสดงอาการ แนะนำว่าควรจะกินยาต้านไวรัส จะมีการตรวจภูมิต้านทาน หรือ ซีดีโฟร์ (CD4) และให้กินยาต้านไวรัสโดยไม่ต้องเสียค่ายาและค่าตรวจภูมิต้านทาน นอกจากนี้จะมีการตรวจจำนวนไวรัสในเลือด (viral load) ปีละ 1 ครั้ง เพื่อดูว่าการรักษาได้ผลดีหรือไม่ มีคำแนะนำเพิ่มเติม คือวินัยของการกินยามีความสำคัญมาก ถ้ากินยาถูกต้อง ครบมากกว่า 95% การรักษาจะได้ผลดีมาก แต่ถ้ากินยาไม่ครบ ลืมกิน หรือกินไม่ตรงตามเวลาที่กำหนด ก็มีโอกาสดื้อยาได้ สามารถใช้สิทธิบัตรทองหรือประกันสังคมได้ ส่วนเรื่องหูดนั้น หูดหงอนไก่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์ที่พบได้บ่อยขึ้น เกิดจากเชื้อไวรัส Human Papilloma Virus (HPV) อาจจะเกิดร่วมกับการติดเชื้อเอดส์หรือไม่ก็ได้ แต่ถ้าติดเชื้อเอดส์ หูดก็อาจจมีขนาดใหญ่หรือมีจำนวนมากกว่าคนทั่วไป การรักษาคือใช้ยา podophyllin หรือ trichloracetic acid จึ้อาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง ประมาณ 4-6 อาทิตย์ จี้หรือใช้ไฟฟ้า หรือเลเซอร์ ซึ่งจะฉีดยาชาเพื่อไม่ให้เจ็บเวลาจี้ |
Beeb*****w |
27 พฤษภาคม 2560 07:54:52 #3 โรคเอดส์มักถูกแบ่งเป็นสองช่วงใหญ่ๆ ค่ะ ช่วงแรกเป็นการติดเชื้อ HIV หลังจากมีความเสี่ยงมาประมาณ 1 เดือน อาการที่บ่งชี้ว่าเริ่มติดเชื้อนั้นคือ มีไข้ มีผื่น รู้สึกได้เหมือนคนเป็นโรคไข้หวัดใหญ่แล้วอาการจะหายไป จนมาเกิดโรคแทรกซ้อนภายหลังจากที่ภูมิคุ้มกันของเราบกพร่องไปแล้วค่ะ หากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกันหรือไม่สวมถุงยางอนามัย ควรรีบตรวจเลือดหาเชื้อ HIV โดยด่วนค่ะ อย่างที่วีเมท สหคลินิก (V-Med Clinic) เชียงใหม่ มีบริการยาต้านไวรัส HIV และให้คำปรึกษาในการรักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ รีบโทรเลยนะคะ เสียค่าโทรเพียงเล็กน้อย แลกกับสุขภาพของคุณ วิธีการตรวจก็ไม่ยุ่งยากใช้เวลาไม่นาน โทรเลยค่ะที่เบอร์ 052-001119 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ http://www.vmedclinic.com |
Anonymous