กระดานสุขภาพ
เป็นแผลที่หนังหุ้มปลาย | |
---|---|
9 พฤษภาคม 2560 13:03:02 #1 เป็นแผลที่หนังหุ้มปลายตอนแรกมีอาการเจ็บและปวด แต่ตอนนี้ไม่รู้สึกแล้วแต่แผลไม่หายสักที เป็นมาประมาณ 1 อาทิตย์แล้ว ไปหาหมอ เค้าให้ฉีดยา แล้วก็ให้น้ำเกลือมาล้างแผล หมอบอกแค่เป็นแผลธรรมดาแต่ติดเชื้อ ไม่ทราบว่าต้องทำยังไงให้แผลหายเร็วๆหรอครับ นี้รูปแผลที่เป็นครับ |
|
อายุ: 21 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 65 กก. ส่วนสูง: 175ซม. ดัชนีมวลกาย : 21.22 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง |
10 พฤษภาคม 2560 09:59:33 #2 ดูจากรูปที่ส่งมา เห็นเป็นแผลขนาดประมาณ 1.5 ซม. ถ้าคุณมีประวัติเสี่ยงคือ ไม่ได้ใช้ถุงยางก็เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น 1. แผลซิฟิลิส หรือแผลริมแข็ง เกิดหลังมีความเสี่ยง 10- 90 วัน แผลจะมีขอบแข็ง ไม่เจ็บ เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Treponema pallidum รักษาโดยฉีดยา benzathine penicillin 2.4 ล้านยูนิต โรคนี้พบบ่อยในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย (เกย์) หรือ 2. เริม เกิดจากเชื้อไวรัส Herpes simplex อาการจะเป็นหลังจากที่มีความเสี่ยงประมาณ 5 -10 วัน ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผลเจ็บและอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต ต้องรักษาโดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (วันละ 5 เม็ด)ประมาณ 1 อาทิตย์ และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อไวรัส Herpes) ไปแฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ เมื่อมีการกระตุ้น เช่นการร่วมเพศ การช่วยตัวเอง ก็จะเป็นซ้ำ โดยอาจมีอาการปวด เสียว บริเวณผิวหนังก่อนที่จะเป็นแผล แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง ส่วนแผลริมอ่อนนั้นปัจจุบันพบได้น้อยลง แต่ถ้าไม่มีความเสี่ยง คือยังไมเคยร่วมเพศหรือเคยแต่ใช้ถุงยางทุกครั้งรวมทั้งการทำออรัลเซ็กส์ ก็อาจจะเป็นแผลติดเชื้อแบคทีเรียทั่วไป โดยสรุป ถ้ามีความเสี่ยงทางเพศ น่าจะเป็นแผลจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ คล้ายกับแผลซิฟิลิส แนะนำหาหมอครับ และควรจะตรวจเลือดเอดส์ด้วยโดยใช้สิทธิบัตรทองหรือประกันสังคม ไม่ต้องเสียค่าตรวจ |
Anonymous