กระดานสุขภาพ
ผมเป็นริดสีดวงหรืออะไรกันนี้ครับ | |
---|---|
1 มกราคม 2560 03:55:20 #1 สวสัดครับ เมื่อวันที่ 18/12/59 ผมได้มีเพศสัมพันธ์กับแฟนผ่านทางทวารหนักครับ หลังจากที่มีเพสศสัมพันธุ์เสร็จผมรู้สึกปวดกว่าคราวก่อนๆ แลรู้สึกคันรอบๆรูทวารหนักเลยได้ทำการเบ่งอุจจาระแล้วนำกระดาษชำระไปซับ พบว่ามีเลือดติดมานิดหน่อย หลังจากนั้นผมก็ขมิบก้นแล้วรู้สึกเจ็บตลอดเวลา ถ่ายอุจจาระนานขึ้น รู้สึกปวดทุกครั้งเวลาถ่ายอุจจาระ แล้วขมิบก้นกลับ จนมาวันที่ 31/12/59 ผมได้ถ่ายอุจจาระแล้วรู้สึกว่าอุจจาระแข็งมาก หลังจากนั้นผมก็ปวดกว่าทุกๆครั้ง แล้ววันที่ 1/1/60 ผมจึงไดทำการถ่ายอุจจาระอีกครั้งนึง แล้วผมได้ทำการเอากระดาษชำระเช็ดพบว่ามีเลือดป่นออกมากับอุจจาระ แล้วผมจึงได้ทำการส่องกระจกแล้วเบ่งดูเบื้องต้นพบว่า กล้ามเนื้อภายในทวารหนักของผมมีลักษณะเป็นสีแดง มีแผลฉีกขาดขนาดเล็กๆ และมีเลือด ไม่ทราบว่าผมเป็นริดสีดวงหรือป่าว แล้วการรักษาเบื้องต้นควรทำอย่างไร ขอบคุณครับ |
|
อายุ: 18 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 55 กก. ส่วนสูง: 165ซม. ดัชนีมวลกาย : 20.20 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง |
6 มกราคม 2560 02:50:38 #2 การที่มีพฤติกรรมเป็นชายรักร่วมเพศหรือเกย์ มีการสอดใส่ทางทวารหนักโดยไม่ใช้ถุงยาง ถือว่ามีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคเอดส์ อาการที่เล่ามา 1. โรคที่พบบ่อยคือ เริม เกิดจากเชื้อไวรัส Herpes simplex อาการจะเป็นหลังจากที่มีความเสี่ยงประมาณ 5 -10 วัน ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผลเจ็บและอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต ต้องรักษาโดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (วันละ 5 เม็ด)ประมาณ 1 อาทิตย์ และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อไวรัส Herpes) ไปแฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ เมื่อมีการกระตุ้น เช่นการร่วมเพศ การช่วยตัวเอง ก็จะเป็นซ้ำ โดยอาจมีอาการปวด เสียว บริเวณผิวหนังก่อนที่จะเป็นแผล แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง 2. แผลซิฟิลิส หรือแผลริมแข็ง เกิดหลังมีความเสี่ยง 10- 90 วัน แผลจะมีขอบแข็ง ไม่เจ็บ เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Treponema pallidum รักษาโดยฉีดยา benzathine penicillin 2.4 ล้านยูนิต โรคนี้พบบ่อยในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย (เกย์) นอกจากนี้ยังอาจจะมีการติดเชื้อหนองในและหนองในเทียมในทวารหนักได้ด้วย ส่วนเรื่องริดสีดวงนั้น สาเหตุของริดสีดวงทวาร มีหลายอย่าง เช่น ลักษณะนิสัยการถ่ายผิดปกติ (ท้องผูก หรือ ท้องเสีย) ออกกำลังกายน้อย รับประทานอาหารที่มีเส้นใยเช่นผักผลไม้น้อย เบ่งอุจจาระนาน อ้วน และนั่งเป็นเวลานานๆ ถ้าเป็นมากขึ้น เส้นเลือดจะโป่งออก และโผล่ออกมาอยู่ด้านนอกได้ ถ้ามีการรักษาที่ถุกต้อง ตั้งแต่เรื่องสุขอนามัย การกินอาหารประเภทผัก ผลไม้ ดื่มน้ำมากๆ ปรับเรื่องการขับถ่ายซึ่งการฝึกต้องทำบ่อยๆจนเกิดความเคยชิน หรืออาจรักษาด้วยการฉีดยาให้ยุบ การผูกเส้นเลือด การจี้ด้วยเครื่องมือต่างๆ รวมทั้งการผ่าตัด ขึ้นอยู่กับความรุนแรง โดยสรุป แนะนำหาหมอและควรตรวจเลือดเอดส์และซิฟิลิสเพราะมีการศึกษาพบว่า ชายรักร่วมเพศมีโอกาสติดเชื้อสูง สามารถใช้สิทธิบัตรทองหรือประกันสังคม ไม่ต้องเสียค่าตรวจครับ |
Porf*****a