กระดานสุขภาพ

ผลเลือดไม่ชัดเจน ตรวจเริม
Varu*****o

24 พฤศจิกายน 2559 08:52:30 #1

สวัสดีครับคุณหมอ
พอดีหลังจากที่ช่วยตัวเองโดยใช้สบู่โพเทคหล่อลื้นเป็นเวลาประมาณ 10นาที ก็เริ่มรู้สึกเจ็บ
และได้สังเกตุเห็น ตุ่มขึ้นบริเวณอวัยวเพศ เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม
ลักษณะเป็นกลุ่ม ไม่มีหนอง และมีหนึ่งจุดสีแดงบริเวณหัว ผ่านไป 3 วันมีการตกสะเก็ด
อาการไม่มีไข้ ต่อมน้ำเหลืองขาหนีบไม่รู้สึกผิดปกติ แต่มีแผลที่เจ็บฉีกอยู่ด้านต้ายอวัยวเพศ
และมีเม็ดเล็กๆ ขึ้นเป็นแนวตามขา ซีกซ้าย (ตุ่มที่น้องชายทั้งหมดก็ขึ้นซีกซ้าย) กดแล้วปวด
เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน ผมจึงไปตรวจเลือด ทั้ง hiv และ เริมที่คลีนิคนิรนาม วันนี้ผลเลือดบอกว่า
1.ไม่ได้เป็น hiv
2. ผลเริม ไม่ชัดเจนอันนึงเป็นลบ แต่อีกอันไม่เป็นบวกและไม่ลบ
ผมอยากเรียนถามคุณหมอว่า
มีเหตุผลอื่นไหมครับที่นำยาแสดงผลไม่ชัดเจน
(เพราะเขาบอกว่าอาจจะเพราะเวลามาตรวจสั้นไป)
ผมยังแอบหวังว่าผมจะเป็นแค่งูสวัส ไม่ก็แพ้สบู่

รอครบ 3 เดือนว่าจะไปตรวจอีกทีครับผม ขอบพระคุณล่วงหน้าครับ

อายุ: 27 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 65 กก. ส่วนสูง: 168ซม. ดัชนีมวลกาย : 23.03 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

25 พฤศจิกายน 2559 09:49:34 #2

เริมเป็นสาเหตุของแผลที่อวัยวะเพศที่พบบ่อยที่สุด เกิดจากเชื้อไวรัส Herpes simplex อาการจะเป็นหลังจากที่มีความเสี่ยงประมาณ 5 -10 วัน ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผล เจ็บและอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต ต้องรักษาโดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (วันละ 5 เม็ด)ประมาณ 1 อาทิตย์ และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อไวรัส Herpes) ไป แฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ เมื่อมีการกระตุ้น เช่นการร่วมเพศ การช่วยตัวเอง ก็จะเป็นซ้ำ โดยอาจมีอาการปวด เสียว บริเวณผิวหนังก่อนที่จะเป็นแผล แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง สำหรับเรื่องการติดต่อนั้นโดยทั่วไปแล้ว จะติดต่อกันได้ง่ายขณะที่มีรอยโรค เช่น ตุ่มน้ำ หรือขณะที่มีแผล อย่างไรก็ตามมีการศึกษาที่ประเทศอเมริกาพบว่า อาจพบเชื้อไวรัสจากสารคัดหลั่งหรือเมือกบริเวณอวัยวะเพศได้แม้ไม่มีอาการแสดงของตุ่มน้ำหรือแผล เป็นไปได้ว่าอาจมีแผลที่ปากมดลูก หรือในช่องคลอดหรือในท่อปัสสาวะซึ่งไม่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่าจากภายนอก โดยพบประมาณ 10% ของจำนวนวัน คือใน 1 ปีอาจพบได้ 36 วัน
ในขณะที่ถ้ามีรอยแผลจะพบ 21% คือ 77 วัน เพราะฉะนั้น โอกาสที่จะติดเชื้อเริมจากคนที่เคยเป็นเริมมาก่อนก็เป็นไปได้แต่จะน้อยกว่าการติดเชื้อขณะ
ที่มีตุ่มน้ำหรือแผล ในกรณีของคุณที่มีตุ่มหลังจาการช่วยตัวเอง ถ้าคุณไม่ได้มีความเสี่ยงมาก่อนและไม่มีประวัติว่าเป็นเริมมาก่อน ตุ่มที่เกิดขึ้นๆอาจจะๆม่ใช่เริม แต่อาจจะเกิดจากการระคายเคืองสารที่มาสัมผัส เช่น สบู่ เจลอาบน้ำ หรืออาจจะเกิดจากการช่วยตัวเองที่รุนแรงเกินไป ร่วมกับความอับชื้น จึงเป็นจุดแดงๆและอาจมีเชื้อราร่วมด้วย แนะนำให้ทำความสะอาดด้วยสบู่อ่อนๆ เช่นสบู่เด็ก ล้างเบาๆแล้วซับให้แห้งด้วยผ้านุ่มๆ ทายาที่มีส่วนผสมของยาแก้แพ้ชนิด triamcinolone 0.02% + ยาเชื้อรา clotimazoleทาบางๆ เช้าและก่อนนอนหลังอาบน้ำ น่าจะดีขึ้นใน 5-7 วัน ในกรณีที่เป็นบ่อยอาจต้องระวังความอับชื้นและงดใช้สารที่สงสัยว่าจะแพ้และถ้าหนังหุ้มยาวเกินไปอาจต้องขลิบเพื่อให้ทำความสะอาดง่ายและไม่อับชื้น การขลิบหนังเป็นการ
ทำศัลยกรรมที่ถือว่าไม่ซับซ้อน แพทย์ศัลยกรรมทั่วไปทำได้ครับ ต้องมีการฉีดยาชา ใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมงน่าจะเสร็จ ถ้ารักษาแผลให้ดี ประมาณ 2-4 อาทิตย์ แผลก็จะหายดี ส่วนการตรวจเลือด ถ้าไม่ความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ ก็ไม่จำเป็นต้องตรวจซ้ำครับ

Varu*****o

25 พฤศจิกายน 2559 11:01:05 #3

ขอบพระคุณครับคุณหมอ