กระดานสุขภาพ

ผมกังวรเรื่องhivช่วยแนะนำผมทีครับหมอ
Meno*****u

26 มิถุนายน 2559 10:19:25 #1


ผมจะเล่าเรื่องของผม โดย ระเอียดให้ฟังนะครับ ผมเสี่ยงมาประมาณ3เดือนแล้ว อาทิตย์แรกหลังเสี่ยง ผมมีอากการคอเเห้งมาก และผมได้ ไปตรวจเลือดที่คลีนิคนินามสภากาชาดไทย (หลังเสี่ยง13วัน ผลปกติ) แล้วหลังจากนั้น ผมก็มีอาการคอเเห้ง มีน้ำมูกไหล มีเสมหะ เป็น สีขาวขุ่น ผื่นขึ้นตามตัวคล้ายสิว อักเสบ เวลาเหงือออกรุ้สึก คันมาก และผม ได้ไปตรวจเลือดหาHIVและสิฟิลิส ที่ คลีนิคแถวบ้าน (หลังเสี่ยง41วัน ผลปกติ) แต่ผมก็ยังไม่มั่นใจ เลยไปตรวจซ้ำที่ คลีนิคนิราม เป็นคลีนิค ที่อยุ่ใน รพ.ประจำจังหวัด (หลังเสี่ยง51วัน ผลปกติ) ต่อมาก็มีอาการต่างๆ เกิดขึ้นกับผม เช่น โคนลิ้นเป็นฝ่าขาว อ่อนเพลีย ต่อมน้ำเหลืองใต้คางโต กดไปเเล้ว รุ้สึก เจ็บๆ ผม เลยไป ตรวจเลือดอีก ครั้ง ที่คลีนิค ในตัวจังหวัด ( หลัง เสี่ยง 90วันผลปกติ) *อาการคอเเห้ง ผม ก็ยังเป็นอยุ่ครับ

*ผมอยากทราบว่าผมปลอดภัยหรือยัง ?

*อาการที่ผมเป็นอยุ่เป็นเพราะสาเหตุอื่น?

อายุ: 23 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 70 กก. ส่วนสูง: 168ซม. ดัชนีมวลกาย : 24.80 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

28 มิถุนายน 2559 03:13:57 #2

การตรวจเลือดเพื่อดูว่ามีการติดเชื้อเอดส์หรือไม่ วิธีที่ตรวจได้เร็วที่สุดหลังมีความเสี่ยงคือการตรวจด้วยด้วยวิธี NAAT คือการตรวจส่วนของเชื้อไวรัสเอชไอวีสามารถตรวจได้เร็วขึ้น คือประมาณ 1 อาทิตย์หลังมีความเสี่ยง แต่จะมีตรวจเฉพาะห้องแล็บใหญ่ๆและมักใช้ในงานวิจัย เนื่องจากมีราคาแพง แนะนำให้ตรวจด้วยวิธีที่ใช้กันทั่วไป คือ GEN 4 ซึ่งเป็นการตรวจแอนติเจนและแอนติบอดี สามารถตรวจได้หลังมีความเสี่ยงประมาณ 3-4 อาทิตย์ ถ้าผลเป็นลบ ก็แสดงว่าไม่ติดเชื้อ แต่ควรตรวจซ้ำหลังเสี่ยงครบ 3 เดือน ซึ่งถ้าผลเป็นลบ ก็ไม่ติดเชื้อเอดส์ ในกรณีของคุณตรวจแล้วหลายครั้งผลเป็นลบ รวมทั้งได้ตรวจซ้ำที่ 90 วันหลังเสี่ยงซึ่งผลเป็นลบ ก็ไม่ติดเชื้อครับ อาการที่เกิดขึ้นน่าจะมาจากสาเหตุอื่น เช่นความกังวลหรือตุ่มที่เกิดจากโรคผิวหนัง

ส่วนเรื่องอาการของการติดเชื้อเอดส์ หรือไวรัสเอชไอวี ขออธิบายดังนี้ 1. การติดเชื้อระยะเฉียบพลัน เกิดขึ้นใน 2-4 อาทิตย์หลังจากที่มีพฤติกรรมเสี่ยง โดยจะมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ เช่น มีไข้สูง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดข้อ คลื่นไส้ อาเจียน มีผื่นขึ้นตามตัว เจ็บคอ ต่อมน้ำเหลืองโต เป็นต้น ซึ่งอาการจะค่อยดีขึ้นใน 1-4 อาทิตย์ เนื่องจากอาการเหล่านี้ไม่ค่อยเฉพาะเจาะจงทำให้มีผู้ป่วยจำนวนมากที่ติดเชื้อโดยไม่รู้ตัว อาจนึกว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ 2. ระยะที่ไม่มีอาการจะเป็นระยะต่อจากระยะเฉียบพลัน ผู้ติดเชื้อจะไม่มีอาการผิดปกติแต่อย่างไร ระยะนี้จะอยู่ระหว่าง 3-5 ปี แต่ในบางรายอาจนานเป็น 10 ปีขึ้นไปขึ้นอยู่กับการดูแลสภาพของร่างกายและปริมาณเชื้อไวรัสในเลือด 3. ระยะที่เป็นเอดส์ ผู้ป่วยเริ่มจะมีภูมต้านทานลดลง น้ำหนักลด ท้องเสียเรื้อรัง มีผื่นคันตามตัว เป็นเชื้อราที่ลิ้น ต่อมาเริ่มมีโรคแทรก เช่น งูสวัด วัณโรคปอด เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ปอดบวม เป็นต้น ทั้ง 3 ระยะต้องยืนยันด้วยการตรวจเลือดซึ่งให้ผลบวก

Meno*****u

28 มิถุนายน 2559 10:46:50 #3

ถ้า ใช้น้ำยาอื่น ที่ไม่ใช่gen4ในการตรวจ หลัง เสี่ยง90ผลก็ไม่ต่างกันใช่ไหมครับ พอดี ผม เป็นคนต่างจังหวัด กลัวเทคโนโลยีในการตรวจจะยังไม่ทัน สมัยครับ

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

30 มิถุนายน 2559 03:34:02 #4

การตรวจเลือดด้วยวิธี GEN 4 จะตรวจทั้งแอนติเจ็นและแอนติบอดี้ ทำให้ตรวจได้เร็วขึ้นคือหลังเสี่ยงประมาณ 2 อาทิตย์ ส่วนการตรวจด้วยวิธีเดิม คือ GEN 3 จะตรวจได้เฉพาะแอนติบอดี้ ทำให้ตรวจพบได้ที่ประมาณ 3-4 อาทิตย์หลังติดเชื้อ ส่วนที่ตรวจที่ 3 เดือน เป้นการตรวจแอนติบอดี้ เพราะฉะนั้นชุดตรวจทั้ง GEN 3 และ 4 จะให้ผลการตรวจเหมือนกัน ไม่ต้องกังวลครับ

Meno*****u

5 กรกฎาคม 2559 01:52:47 #5

- ผมมีอาการคอเเห้ง ต่อมน้ำเหลืองใต้คางโต ลิ้นเป็นฝ่าขาว ผมได้ไปหาหมอที่ คลีนิค หมอบอกว่าผมเป็นนิ้วในคอ ผม อยากทราบว่าโรคนี้มันอันตรายมากน้อยแค่ไหนครับ
- ขอถามเรื่องHIV ต่ออีกนิดหน่อยนะครับ  ผม อยากทราบว่าถ้าผมไม่มีความเสี่ยงเพิ่ม ผลเลือดที่ออกมา จะไม่เปลี่ยนเเปลง แล้ว ใช่ไหมครับ
-ผมอยากทราบว่า เดียวนี้ ตรวจที่3เดือน หลังเสียง หรือ6เดือนหลังเสี่ยงถึงจะปลอดภัยครับ เพราะผม เห็นบางเว็บให้ตรวจซ้ำหลังเสี่ยง3เดือน บางเว็บก็บอกตรวจซ้ำหลังเสี่ยง6เดือน

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

6 กรกฎาคม 2559 03:16:15 #6

ชุดตรวจเลือดเอดส์ในปัจจุบัน มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีความไวและความจำเพาะสูง คำแนะนำที่ใช้เป็นสากลทั้งในประเทศอเมิกา ยุโรป รวมทั้งประเทศไทย คือ 3 เดือนหลังเสี่ยง ถ้าผลเป็นลบโยที่ไม่ได้มีความเสี่ยงเพิ่มเติม ก็ถือว่าไม่ติดเชื้อ ส่วนเรื่องอาการต่างๆที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะเรื่องในลำคดและลิ้น น่าจะเกิดจากความกังวล ถ้าไม่แน่ใจแนะนำหาาหมอระบบหู คอ จมูกครับ