กระดานสุขภาพ
รบกวนถามคุณหมอหน่อยครับ เป็นแผลแบบนี้ [มีรูป] | |
---|---|
16 พฤษภาคม 2559 09:43:44 #1 http://haamor.com/media/images/webboardpics/CatTwins-28457.jpg เป็นแผลแบบตามในภาพช่วงก่อนถึงอวัยวะเพศบริเวณตรงกลาง มันบวมแดง ใสๆ จับแล้วมันนิ่มๆเหมือนเนื้อแต่เจ็บและแสบเวลาแตะไปโดน เคยเป็นก่อนหน้านี้เมื่อปีที่แล้วตอนนั้นก็เป็นแบบนี้ แล้วอยู่ๆแผลก็แตก มีเลือด และ เหมือนมีน้ำหนองใสๆเหนียวๆออกมา หลังจากนั้นก็ดูเหมือนว่าจะหาย มันกลายเป็นลอยแผลดำๆ คล้ายๆเหมือนแผลสิว แต่มันก็ยัง นูนๆ และ บวมๆ อยู่เหมือนเดิม จนมาตอนนี้ก็เป็นอีกไม่รู้สาเหตุว่าเกิดจากอะไร รู้สึกว่าจะบวมและใหญ่ขึ้นกว่าเดิมนิดหน่อย มันมีอากาคันด้วย แต่พยายามที่จะไม่ไปเกา ล่าสุดแผลก็แตกเองยังไม่ได้ทำอะไรเลย
รวบกวนคุณหมอหน่อยนะครับ ขอบคุณมากครับ |
|
อายุ: 22 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 76 กก. ส่วนสูง: 170ซม. ดัชนีมวลกาย : 26.30 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง |
18 พฤษภาคม 2559 04:16:17 #2 ดูจากรูปที่ส่งมา เห็นแผลเล็กๆ ลักษณะของแผลที่บริเวณอวัยวะเพศ เป็นแผลตื้นๆ คล้ายเริมซึ่งถ้าเป็นเริม รอยโรคจะเริ่มด้วยการเป็นตุ่มแดง แล้วกลายเป็นตุ่มน้ำใสๆ ภายใน 1-2 วัน ตุ่มน้ำจะแตกออกกลายเป็นแผลตื้นๆ เริมเป็นสาเหตุของแผลที่อวัยวะเพศที่พบบ่อยที่สุด เกิดจากการติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อาการจะเป็นหลังจากที่มีความเสี่ยงประมาณ 5 -10 วัน ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผล นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต รักษาโดยใช้ยา aciclovir 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชม. 5-7 วัน และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อเริม ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่เรียกว่า เฮอร์ปีส์ (Herpes) ไปแฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง ในการเป็นซ้ำ ให้กินยา acyclovir ก็จะช่วยให้หายเร็วขึ้น ถ้าไม่แน่ใจแนะนำหาหมอครับ |
CatT*****s |
18 พฤษภาคม 2559 12:55:01 #3 คุณหมอครับแต่ผมไม่เคยมีเพศสัมพันธ์เลยนะครับ ในรูปตุ่มจะแดงบวมๆเหมือนมีน้ำอยู่ข้างใน นิ่มๆ แต่ไม่เล็กครับ และ มีตุ่มเดียวเลยใหญ่ๆ ครั้งแรกที่เป็นก็มีตุ่มเดียวบวมๆ แต่เล็กกว่านี้หน่อยครับ ตรงที่เป็นก็ไม่ใช่ที่อวัยวะเพศครับ เป็นก่อนถึงก็คือช่วงหัวหน่าวตรงกลางไกล้ๆอวัยวะเพศครับ แต่ช่วงนี้งานเยอะมากครับ ยังไม่มีเวลาได้ไปหาหมอเลยอยากจะถามปรึกษาไว้ก่อน ถ้าไงอยากรบกวนหมอช่วยดูให้ใหม่อีกทีนึงนะครับ ขอบคุณมากครับคุณหมอ |
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง |
23 พฤษภาคม 2559 03:02:17 #4 ถ้าแน่ใจว่ายังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ ก็ไม่เป็นโรคติต่อ อากรที่เล่ามาอาจจะเกิดจาก 1. การอักเสบของต่อมใต้ผิวหนังคล้ายกับการเกิดสิว ให้กินยาแก้อักเสบ เช่น dicloxacillin ครั้งละ 250 มิลลิกรัม วันละ 4 ครั้งก่อนอาหารและก่อนนอนประมาณ 2 อาทิตย์ 2. ซีสต์หรือถุงน้ำหรือถุงไขมันใต้ผิวหนัง ถ้าไม่เจ็บ ไม่มีเลือดออกหรือไม่มีการอักเสบ ก็ไม่ต้องทำอะไร อาจจะยุบเองได้ แต่ถ้าใหณ่ขึ้น เจ็บ อักเสบ อาจจะต้องเลาะออก 3. โรคผิวหนังที่เกิดจากการแพ้ เกา จนเป็นตุ่ม หรือโรคผิวหนังอื่นๆ แนะนำหาหมอผิวหนังครับ |
CatT*****s |
30 พฤษภาคม 2559 08:19:08 #5 ขอบคุณมากครับคุณหมอ |
CatT*****s