กระดานสุขภาพ
ควรทำยังไงดีคับ | |
---|---|
16 พฤศจิกายน 2558 17:14:32 #1 สืบเนื่องจากที่เคยถามคุณหมอเรื่องอาการคันซึ่งคุณให้คำแนะนำว่าน่าจะเกิดจากเชื้อรา หลังจากที่ซื้อยามาทาแล้วอาการก็ดีขึ้นแต่ถ้าวันไหนไม่ได้ทากลับมีอาการคันมากและมีสีขาวมากขึ้นมีกลิ่นเหม็น ได้ทายาจึงหายไป ตอนนี้เลิกทายาแล้วคับ อาการที่พบคือจากที่เป็นสีขาวตอนแรกเริ่มเปลี่ยนเป็นตุ่มเล็กแดงๆขึ้นปลายอวัยวะเพศมีอาการคันไม่มากเป็นสักพักหนึ่งก็หายไปเป็นปกติ. แต่ปัจจุบันจากที่เป็นปกติเวลาช่วยตัวเองหรือมีเพศสัมพันธ์จะมีจุดดังกล่าวเกิดขึ้นคือ จุดเล็กๆมีสีแดงและมีเลือดซึมๆออกตามจุดแดงและเจ็บๆคันๆ คับ ควรทำยังไงดีคับคุณหมอหากจะไปพบแพทย์ถ้าเอาให้แพทย์ดูลักษณะก็ปกติแพทย์จะวินิจฉัยโรคได้ไหมคับหรือต้องเล่าให้แพทย์(หากต้องไปพบแพทย์) รบกวนคุณหมอด้วยครับ |
|
อายุ: 22 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 44 กก. ส่วนสูง: 163ซม. ดัชนีมวลกาย : 16.56 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
Anonymous |
16 พฤศจิกายน 2558 17:20:55 #2
ปัจจุบันอวัยเพศกลับมาเป็นปกติแล้วคับไม่มีตุ่มหรือสีขาวจากเชื้อรา แต่คันเล็กน้อย จะเป็นตุ่มตอนช่วยตัวเองกับมีเพศสัมพันธ์คับ
|
Anonymous |
16 พฤศจิกายน 2558 17:21:51 #3
ปัจจุบันอวัยเพศกลับมาเป็นปกติแล้วคับไม่มีตุ่มหรือสีขาวจากเชื้อรา แต่คันเล็กน้อย จะเป็นตุ่มตอนช่วยตัวเองกับมีเพศสัมพันธ์คับ
|
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง |
28 พฤศจิกายน 2558 04:38:36 #4 ถ้ามีอาการเป็นตุ่มเล็กน้อยหลังจากช่วยตัวเองหรือมีเพศสัมพันธ์ และหายเองได้ ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติที่อาจจะเกิดจากการเสียดสีขณะที่การร่วมเพศหรือการช่วยตัวเอง ก็ไม่ต้องกังวล ส่วนเรื่องกลิ่นและมีเมือกขาวๆ น่าจะเป็นขี้เปียกร่วมกับความอับชื้น คงต้องทำความสะอาดอย่างน้อย เช่้า เย็น ตอนอาบน้ำโดยใช้สบู่อ่อนๆ เช่นสบู่เด็ก และถ้าหนังหุ้มยาว รูดได้ไม่สุด หรือรัดเวลาแข็งตัว ก็ควรจะขลิบหนังหุ้มปลายครับ การขลิบหนังหุ้มปลายถือเป็นการผ่าตัดธรรมดา มีการฉีดยาชาเฉพาะที่ ใช้เวลา 1 ชม. แผลจะหายใน 2-4 อาทิตย์ ผลดีของการขลิบคือ ทำความสะอาดง่าย ไม่เป็นแผลเวลาร่วมเพศ มีการศึกษาที่หลายประเทศในทวีปแอฟริกาพบว่าช่วยลดการติดเชื้อเอดส์ได้ประมาณ 40% แต่ยังไมมีการศึกษาในประเทศไทย |
Anonymous