การรับประทานวิตามินรวมแบบต่างๆควรสังเกตุข้างขวดด้วยนะคะ เพราะอันตรายจากการได้วิตามินเกิน โดยเฉพาะวิตามินเอและวิตามินอีจะทำให้ อ่อนเพลีย หากร่างกายได้รับวิตามินเอเกินครั้งละ 15,000 ไมโครกรัมและอาเจียนได้
นอกจากนั้นมีผลต่อระบบประสาทและเยื่อบุตาแห้งอักเสบได้ ส่วนใน seven sea ไลซีนที่น้องรับประทานมีส่วนประกอบคือ ส่วนประกอบสำคัญใน 1 ช้อนชา (5 มล.)

• ไลซีน ไฮโดรคลอไรด์ 375 มก.
• วิตามินบี 1 5 มก.
• วิตามินบี 2 2 มก.
• วิตามินบี 6 2.5 มก.
• วิตามินบี 12 3 มคก.
• ดี-แพนทีนอล 3 มก.
• นิโคทินามายด์ 20 มก. ซึ่งไม่มีวิตามินเอและอี

แต่จะมีกลุ่มวิตามินบีรวมและไลซีน ซึ่งไลซีนเป็นกรดอะมิโนจำเป็นที่ต้องได้จากอาหารกลุ่มธัญพืช ไลซีนมีประโยชน์ในการสร้างกระดูก กล้ามเนื้อ คอลลาเจนและอวัยวะสืบพันธ์ แต่ในเรื่องความอยากอาหาร

การทำงานของระบบย่อยอาหารกลับพบในวิตามินบี 3 (นิโคทินามายด์) มากกว่าค่ะ ซึ่งวิตามินบีละลายในน้ำได้และขับออกทางปัสสาวะรวดเร็วจึงไม่ตกค้างและเป็นพิษแต่ก็แนะนำว่าวิตามินบี 3 นี้ควรได้รับ 6-19 มก.ต่อวันค่ะ
ส่วน Seven sea ที่มีโอเมกา 3 ช่วยเสริม การมองเห็นและกรดไขมันที่จำเป็นในการการเจริญเติบโตของใยประสาทในเด็กก้ไม่ได้มีผลต่อน้ำหนักค่ะ

ดังนั้นการรับประทาน seven sea ทั้งสองแบบไม่มีโทษ แต่ประโยชน์อาจไม่ได้มีมากนักในการเพิ่มความอยากอาหารหรือเพิ่มน้ำหนัก วิตามินที่โรงพยาบาลให้ควรงดหรือไม่ ให้ดูที่ส่วนประกอบค่ะ ตามที่บอกไปข้างต้นเพียงไม่ให้วิตามินเอและอีเกินค่ามาตรฐานที่จะเกิดผลเสียต่อร่างกายค่ะ ส่วนสาเหตุของน้ำหนักตัวน้อยและตัวเตี้ยนั้น ต้องมีการประเมินภาวะการเจริญเติบโตจากกราฟส่วนสูงและน้ำหนักจึงจะวิเคราะห์หาสาเหตุได้ว่าจากสาเหตุอะไร ซึ่งสาเหตุทางการเจ็บป่วยที่มีโรคพื้นฐาน เช่น โรคหัวใจ ไต ตับ ซึ่งการตรวจร่างกายอย่างละเอียดจะช่วยมาก,โรคทางพันธุกรรมเมตาบอลิก,โรคต่อมใต้สมองหรือโฮโมนการเจริญเติบโตผิดปกติ และอาจเป็นภาวะปกติคือตัวเล็กตามพันธุกรรมพ่อแม่ได้

ดังนั้น ควรจะพาน้องไปพบกุมารแพทย์หรือกุมารแพทย์ระบบต่อมไร้ท่อเพื่อช่วยประเมินตรวจรักษาก็จะดีค่ะ

ปัญหาเดียวกันค่ะ ไม่ทราบตอนนี้น้องกินไวตามินเสริมแล้วเป็นไงบ้างคะ