กระดานสุขภาพ
ลืมกินยา | |
---|---|
30 เมษายน 2558 16:41:22 #1 กินยาคุม yasmin แผง21เม็ดค่ะ แล้วลืมสัปดาห์สุดท้ายเม็ดที่18-20จำได้เม็ดที่21ค่ะ แต่ก็กินจนหมดแผงค่ะเป็นวันละ 2 เม็ดเช้ากับก่อนนอนจนหมด แต่ประจำเดือนมาวันที่21แบบกระปิดกระปอยค่ะ มาได้2วันก็หายไป อยากทราบว่าเป็นเพราะอะไรค่ะแล้วจะท้องมั้ย แล้วถ้าเริ่มกินใหม่นี้ต้องรอประจำเดือนมาหรือนับ7วันแล้วกินตามปกติค่ะ |
|
อายุ: 19 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 45 กก. ส่วนสูง: 154ซม. ดัชนีมวลกาย : 18.97 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผลเภสัชกร |
5 พฤษภาคม 2558 15:27:06 #2 เรียน คุณ Jajane, ก่อนตอบคำถามของคุณ ขอแนะนำวิธีการรับประทานยาคุมกำเนิดที่ถูกต้อง คือ 1. ต้องรับประทานยาสม่ำเสมอ เวลาคลาดเคลื่อน +/- ไม่เกิน 1 ชั่วโมง เพื่อให้ระดับยาในเลือดสม่ำเสมอ เนื่องจากการที่ระดับยาในเลือดสูงบ้างต่ำบ้าง ไม่คงที่ตลอดวัน จะทำให้ระบบฮอร์โมนเพศในร่างกายสับสน เยื่อบุโพรงมดลูกที่ยังคงอยู่ระหว่างเดือน จากระดับฮอร์โมนเพศ จะเกิดการฉีกขาดหรือหลุดลอกได้ก่อนกำหนด ทำให้เกิดอาการเลือดออกกะปริบกะปรอยระหว่างเดือนได้ และไม่ควรลืมรับประทานยา เนื่องจากจะส่งผลให้เกิดภาวะฮอร์โมนเพศลดต่ำลง จนเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้ โดยที่หากลืมรับประทานยามากเกินกว่า 2 เม็ด จะทำให้เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้เท่ากับสตรีทั่วไปที่ไม่มีการรับประทานยาคุมกำเนิด โดยเฉพาะในช่วง 14 วันแรกของการรับประทานยาคุมกำเนิด 2. รับประทานยาทุกชนิดด้วยน้ำเปล่าสะอาดเท่านั้น เนื่องจากเครื่องดื่มอื่นๆอาจทำให้ตัวยาตกตะกอน และไม่มีการละลาย ร่างกายไม่สามารถดูดซึมยาได้ เช่น ชา ชาเขียว กาแฟ โกโก้ นม น้ำเต้าหู้ 3. ไม่ซื้อยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใด ๆมาใช้ร่วมกัน โดยที่ยังไม่ได้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เนื่องจากอาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยา "ยาตีกัน" จนเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ หรือยาที่ใช้ในการรักษาโรคไม่ได้ผล จนเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ กลับมาที่คำถามของคุณ ภาวะเลือดออกกะปริบกะปรอย เกิดจากการที่คุณรับประทานยาไม่สม่ำเสมอ มีการลืมรับประทานยา ทำให้ระดับฮอร์โมนเพศ ต่ำบ้าง สูงบ้าง จนเป็นสาเหตุที่ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่หลุดลอกตามกำหนด มีเพียงเลือดกะปริบกะปรอย ส่วนความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ ถ้าคุณปฏิบัติตนอย่างถูกต้องเมื่อลืมรับประทานยาคุมกำเนิด ตัวยายังคงมีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดตามปกติครับ ส่วนการเริ่มรับประทานยาแผงต่อไป ให้นับต่อจากเดิม เว้น 7 วันหลังรับประทานยาเม็ดสุดท้าย แล้วจึงเริ่มยาแผงต่อไปครับ ขออนุญาตแนะนำหากคุณยังไม่ได้แต่งงาน และไม่ได้มีเพศสัมพันธ์บ่อย ๆ วิธีการสวมถุงยางอนามัยจะเหมาะสมกับคุณมากกว่านะครับ นอกจากคุมกำเนิดแล้วยังช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ใด้อีกด้วย เช่น หนองใน ซิฟิลิส แผลริมอ่อน พยาธิในช่องคลอด ไวรัสตับอักเสบ บี/ซี หรือโชคร้ายสุดคือ เอชไอวี ที่ทำให้เกิดโรคเอดส์ ที่ปัจจุบันยังไม่มีทางรักษาให้หายขาด ทั้งนี้ยังช่วยป้องกันไวรัสเอชพีวี (HPV - Human Papilloma virus) ที่เป็นสาเหตุกระตุ้นให้เกิดมะเร็งปากมดลูกในเพศหญิง หรือ หูดหงอนไก่ / มะเร็งองคชาติในเพศชาย
เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล |
Jaja*****e