เรียน คุณ 375c4,

ตัวยาที่คุณสอบถามมานั้นประกอบด้วยตัวยาสำคัญ คือ norethisterone ซึ่งเป็นฮอร์โมนจำพวกโปรเจสติน ในธรรมชาติฮอร์โมนนี้จะหลั่งออกมามากในช่วงหลังของรอบประจำเดือน ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัว เพื่อรอรับการฝังตัวของตัวอ่อนหากมีการผสมของไข่กับอสุจิ แต่หากไม่มีเพศสัมพันธ์หรือไม่มีการผสมของไข่กับตัวอสุจิ ฮอร์โมนนี้ก็จะค่อย ๆลดปริมาณลง เยื่อบุโพรงมดลูกก็จะค่อยฉีกขาดและหลุดลอกออกมาเป็นเลือดประจำเดือน ดังนั้นในทางการแพทย์จะมีการนำมาใช้เพื่อสองข้อบ่งใช้ คือ 1. กรณีที่ประจำเดือนมาปริมาณมาก หรือจำนวนวันมากเกิน จนเสี่ยงต่อภาวะโลหิตจาง หรือ 2. กรณีที่ประจำเดือนมาไม่ปกติ ซึ่งต้องมั่นใจก่อนใช้ยานี้ว่าไม่มีการตั้งครรภ์แน่นอน เมือรับประทานยาครบ 5 - 7 วัน แล้ว จะทำให้หลอกร่างกายว่ามีการลดลงของฮอร์โมนนี้ ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกที่หนาตัว เริ่มฉีกขาดและหลุดลอกออกมาคล้ายกับเลือดประจำเดือนตามปกติ การรับประทานยานี้ควรรับประทานหลังอาหาร เนื่องจากอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือมวนแน่นท้องได้ ไม่แนะนำให้ซื้อมารับประทานเองติดต่อกันนาน (ส่วนใหญ่ทางการแพทย์จะใช้ติดต่อกันไม่เกิน 3 เดือน) โดยที่ไม่ได้มีการตรวจจากแพทย์ เนื่องจากภาวะประจำเดือนผิดปกติ ที่เพิ่งมาเป็นนั้นอาจเกิดจากหลายปัจจัยทั้งเรื่องการทำงานผิดปกติของต่อมใต้สมอง หรือรังไข่หรืออาจเกิดความผิดปกติทางกายภาพ เช่นมีภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวไม่ทราบสาเหตุ หรือ มีการอุดตันภายในช่องคลอดได้
ข้อปฏิบัติเบื้องต้น ให้ปฏิบัติตามหลักสุขภาพ คือ ต้องเน้น 5 อ. 1. อาหาร ต้องรับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ ครบ 5 หมู่ เน้นผักสด ผลไม้ (ที่มีรสไม่หวานจัด) นอกจากได้กากใยแล้วยังได้รับวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระด้วย ช่วยควบคุมน้ำหนัก จากงานวิจัยพบว่าสตรีที่มีไขมันในช่องท้องปริมาณมาก จะมีการทำงานของระบบฮอร์โมนผิดปกติไป อาจเกิดจากการที่ไขมันดูดซับฮอร์โมนที่ต่อมใต้สมองและรังไข่ผลิตออกมา หรือไขมันบางชนิดจะมีการสร้างฮอร์โมนเพื่อทำให้เกิดภาวะไขมันในเลือดสูง หรือเบาหวานได้ 2. ออกกำลังกาย การออกกำลังกายสม่ำเสมอ ช่วยให้ระบบเลือดไหลเวียนดี ช่วยควบคุมน้ำหนัก การขับถ่ายของเสียออกทางเหงื่อ และยังช่วยให้อวัยวะภายในได้มีการเคลื่อนไหวร่างกายมีการหลั่งฮอร์โมนเอนดอร์ฟิน ที่ช่วยให้อารมณ์ดี สดชื่น แจ่มใจ 3. อารมณ์ - พยายามไม่เครียด ทั้งจากเรื่องการงาน การเรียน หรือจากครอบครัว ภาวะเครียดจะทำให้ร่างการหลั่งฮอร์โมนแห่งความเครียด คอร์ติซอล ที่เป็นฮอร์โมนสเตียรอยด์ จะทำให้ร่างกายเก็บสารอาหาร เพื่อเอาชีวิตรอด เช่น เกลือ (บวมน้ำ ความดันโลหิตสูง) น้ำตาล (เบาหวาน) ไขมัน (ภาวะไขมันในเลือดสูง หลอดเลือดอุดตัน) ยับยั้งการเสริมสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติ
แคลเซียม (กระดูกพรุน) รวมถึงลดการสร้างสารสื่อประสาท (รู้สึกไม่สดชื่น ไม่แจ่มใสหลังตื่นนอน) 4. อากาศ - อากาศที่ดี ช่วยให้มีออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆของร่างกาย 5. (อด)นอน - การนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอ คือ 6-8 ชั่วโมง และไม่นอนดึกเกินกว่า 23.00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่ร่างกายมีการหลั่ง Growth Hormone ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกายกระตุ้นให้มีการซ่อมสร้างคอลลาเจน และปรับให้มีการทำงานของระบบประสาทที่ดี ช่วยเรื่องความจำขณะหลับอีกด้วย

ขอเสริมอีกเรื่อง หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้ยา สามารถสอบถามได้จากแพทย์หรือเภสัชกรร้านยาใกล้บ้านได้ทันที เพื่อประโยชน์สูงสุดจากการใช้ยา และเกิดอันตรายน้อยสุดไม่ควรรอคำตอบจากทางหน้าเว็บ ซึ่งอาจช้าไม่ทันการ หรือข้อมูลไม่ตรงกัน จากการสอบถามข้อมูลแบบเฉพาะบุคคล

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล