กระดานสุขภาพ
ท้องไม่ท้อง | |
---|---|
7 เมษายน 2562 17:03:42 #1 รอบเดือนหนูมาไม่ตรงกันรอบเดือนเดือนธันวาหนูมา6ธันวา มกราคมหนูมา31มกราคม กุมภาพันธ์หนูมา20 แต่เดือนมีนาคมประจำเดือนไม่มา มีเพศสัมพันธ์ตอนวันที่ึมีนาแบบป้องกันแล้วมีอีกทีวันที่18มีนา(แบบไม่ป้องกันแต่ไม่ได้มีการหลั่งนอกหรือแตก) แล้วได้ตรวจการตั้งครรภ์ด้วยที่ตรวจแบบหยด5อัน คือตรวจวันที่ 27 28 29 31 ผลออกมา1ขีด แล้วตรวจอีกทีวันที่1เมษา ตอนเช้าขึ้น1ขีดแต่วันที่31 ได้มีการไปเจาะเลือดแล้วผลออกวันที่1 เมษาผลออกมาเป็น0.97 ซึ่งทางที่ไปเจาะเลือดเขาบอกว่าปลอดภัยไม่มีการตั้งครรภ์ ออยากทราบว่าผลที่ได้ตรวจมาทั้งหลายมีความแม่นยำและทำให้เราเชื่อถือได้หรือยังคะ |
|
อายุ: 18 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 62 กก. ส่วนสูง: 160ซม. ดัชนีมวลกาย : 24.22 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
Anonymous |
7 เมษายน 2562 17:10:11 #2
เพิ่มเติมนะคะ หลุดตรงมีเพศสัมพันธ์วันที่5มีนาแบบป้องกันใส่ถุงแลเวมีอีกทีวันที่18(ตามที่พิมบอกเลยคะ)
|
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์(สูติ-นรีแพทย์) |
8 เมษายน 2562 15:56:51 #3 ในกรณีที่คุณมีประจำเดือนมาไม่ตรงตามปกติ มาไม่สม่ำเสมอ มาบ้างไม่มาบ้าง จะไม่สามารถทำนายถึงระยะปลอดภัยได้อย่างแม่นยำค่ะ ดังนั้น ถ้าไม่พร้อมที่จะมีบุตรจะต้องป้องกันการตั้งครรภ์ให้ดีทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ คุณได้มีเพศสัมพันธ์ไหมวันที่ 5 มีนา 18 มีนาคมและมีการป้องกันการตั้งครรภ์โดยสวมถุงยางอนามัยและไม่ได้มีการหลั่งภายใน ดังนั้น ถ้ามั่นใจอย่างแน่นอนว่าปลอดภัยคุณก็ไม่ควรมีการตั้งครรภ์ สำหรับการตรวจปัสสาวะ เพื่อตรวจสอบการตั้งครรภ์จะมีความแม่นยำถ้าได้ทำการตรวจหลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายไปแล้วประมาณ 3 สัปดาห์ แต่ถ้าต้องการตรวจเลือดเพื่อทดสอบการตั้งครรภ์จะทำได้หลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายไปแล้วประมาณ 2 สัปดาห์ ผลการตรวจนั้นจึงจะเชื่อถือได้ ในกรณีที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายไปเมื่อ 18 มีนาคม ดังนั้น ควรทำการตรวจปัสสาวะเพื่อทดสอบการตั้งครรภ์ในช่วงประมาณวันที่ 1 เมษายน เป็นต้นไป ผลการตรวจจึงจะเชื่อถือได้ ถ้าได้ตรวจเลือดแล้วได้ระดับฮอร์โมนออกมาเป็น 0.97 ก็เชื่อถือได้อย่างแน่นอนว่าไม่ควรมีการตั้งครรภ์ ในกรณีที่รอบเดือนยังไม่มาและกังวลมากก็สามารถรับประทานฮอร์โมนโปรเจสโตรเจน เพื่อให้ประจำเดือนมาได้โดยสามารถปรึกษาเภสัชกรร้านขายยาเพื่อหาซื้อฮอร์โมนตัวนี้มาทานหรืออาจจะไปพบแพทย์เพื่อรับข้ฮอร์โมนตัวนี้มาทานก็ได้ค่ะ ทานนานประมาณ 7-10 วัน รอบเดือนก็จะมาได้ เนื่องจากคุณมีน้ำหนักตัวที่มาก ดังนั้น จึงอาจจะมีโอกาสที่จะเกิดภาวะของอาการของกลุ่มอาการถุงน้ำที่รังไข่ที่ทางการแพทย์เรียกว่า PCOS หรือ Polycystic ovarian Syndrome ภาวะนี้มักจะพบในคนที่มีน้ำหนักตัวมาก ทำให้ผิวรังไข่มีความหนาตัวมากจนไข่ไม่สามารถตกได้ตามปกติ เมื่อไข่ไม่ตกก็จะขาดการสร้างฮอร์โมนที่สำคัญคือโปรเจสเตอโรนซึ่งจะเป็นฮอร์โมนที่เป็นทำให้ผนังเยื่อบุโพรงมดลูกสุกและหลุดลอกออกมาเป็นประจำเดือน ผนังเยื่อบุโพรงมดลูกจะมีความหนาตัวมากขึ้นเรื่อยๆ จนไม่มีรอบเดือนมา อย่างไรก็ตาม ถ้ารอบเดือนไม่มานานเกิน 3 เดือนคุณอาจจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งผนังเยื่อบุโพรงมดลูกได้เช่นกันค่ะ ดังนั้น ควรรับประทานฮอร์โมนพื่อให้รอบเดือนมา การวินิจฉัยภาวะนี้จำเป็นจะต้องได้รับการตรวจอัลตราซาวด์เพื่อประเมินลักษณะของรังไข่ซึ่งจะเห็นลักษณะของรังไข่มีลักษณะคล้ายพวงองุ่นซึ่งเกิดจากการที่มีถุงน้ำเกาะกันอยู่เป็นกลุ่ม จะทำให้สามารถวินิจฉัยภาวะนี้ได้ นอกจากนี้ คุณอาจจะมีลักษณะของฮอร์โมนแอนโดรเจนมากซึ่งจะทำให้คุณมีลักษณะสิวมาก หน้ามัน ขนดกมีหนวดเครา ขนหน้าแข้งมากได้เช่นกันค่ะ |
TT43*****3 |
8 เมษายน 2562 16:11:19 #4
แสดงว่าเจาะเลือดวันที่31มีนา ก็คือได้ใช่ไหมคะ แสดงว่าผลก็ปรากฎว่าไม่ท้คือน่าเชื่อถือแล้วใช่ไหมคะ
|
Anonymous |
8 เมษายน 2562 16:17:05 #5
ีอยากทราบว่าหนูตรวจเลือดวันที่31มีนา ผลตรวจคือน่าเชื่อถือแล้วใช่ไหมคะเพราะเจาะเลือดหลังมีเพศ สัมพันธ์13วัน แล้วได้ทำการตรวจซ้ำอีกโดยการใช้ที่ตรวจครรภ์แบบหยดผลปรากฏ1ขีด แสดงว่าปลอดภัยไม่ตั้งครรภ์ใช่ไหมคะ
|
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์(สูติ-นรีแพทย์) |
9 เมษายน 2562 02:54:16 #6 จากที่คุณบอกมาถ้าผลการตรวจหลังจากมีเพศสัมพันธ์ไปแล้ว 13 วัน ไม่พบการตั้งครรภ์และยังได้ตรวจซ้ำอีกโดยใช้ที่ตรวจครรภ์แบบหยดหรือเป็นการตรวจปัสสาวะก็ยังไม่พบการตั้งครรภ์ผลน่าจะเชื่อถือได้แน่นอนค่ะ ว่าไม่มีการตั้งครรภ์ |
Anonymous |
13 เมษายน 2562 09:40:42 #7
คุณหมอให้ยาขับประจำเดือนมาคุณหมอบอกให้ทานวันไหนก็ได้7วัน หนูเริ่มทานวันที่3เมษายาต้องหมดวันที่9เมษา แล้วหมอบอกว่าประจำเดือนจะต้องมาหลัง3วันคือวันที่13 เมษา แต่ตอนนี้ประจำเดือนยังไม่มาเลยคะจะท้องไหมค่ะ
|
Anonymous |
13 เมษายน 2562 09:45:16 #8
หลังจากการมีเพศสัมพันธ์วันที่18 (ไม่มีการหลั่งไม่มีการเสร็จแต่เสียบเข้าไปเฉยๆ)แล้วได้ทำการตรวจเลือดวันที่31กุมภาพันธ์ผลเลือดออกมา0.97อย่างที่เคยปรึกษาไปแล้วได้ตรวจแบบเครื่องตรวจฉี่อีกที1เมษาแล้วผลไม่ท้องขึ้นขีดเดียวแล้วหนูได้กินยาขับประจำเดือนในวันที่เมษายนหมอบอกกิน7วัน ก็คือต้องกินวันที่3-9หลังจากยาหมดนับไป3วันประจำเดือนต้องมาถ้าไม่มาคือท้อง คือประจำเดือนหนูต้องมา13เมษาแต่นี่บังไม่มาจะท้องไหมค่ะ
|
Anonymous |
14 เมษายน 2562 00:00:40 #9
มีเพศสัมพันธ์วันที่18กุมภาพันธ์แบบเสียบเข้าประมาณ3นาทีแต่ไม่มีการเสร็จและไม่มีการหลั่งนอกใดๆแล้วได้ทำการตรวจแบบปัสสาวะ5อันคือตรวจวันที่ 26 27 28 31 แล้ววันที่1 ผลเป็นลบ แล้ววันที่31มีนาคมได้ทำการเจาะเลือดที่คลีนิก+กับการตรวจฉี่ ตรวจฉี่ที่คลีนิครู้ผลทันทีผลออกมาเป็นลบส่วนการเจาะเลือดผลออกวันที่1เมษาพอวันที่1เมษาได้เข้าไปเอาผลการตรวจเลือดผลออกมาเป็น0.97 หมอบอกไม่มีการตั้งครรภ์ (ตรวจเลือดหลังมีเพศสัมพันธ์13วัน) แล้วได้ทำการตรวจฉี่อีกทีตอนเช้าก่อนไปรับผลตรวจเลือดผลออกมาเป็นลบเหมือนกันแล้วพอรู้ผลแล้วได้ไปซื้อยาขับประจำเดือนที่คลีนิคสูนินารีหมอให้ยามา2แผงกิน7วันเริ่มวันไหนก็ได้ ส่วนตัวหนูได้เริ่มกินวันที่3เมษา ยาต้องหมดวันที่9เมษา แล้วประจำเดือนต้องมาหลังจากยาหมด3วันคือวันที่13เมษา ตอนนี้13เมษาประจำำเดือนยังไม่มามีโอกาสท้องไหมค่ะหมอเขาบอกว่สถ้ากินยาแล้วยังไม่มาคือท้องจะจริงตามนั้นไหมค่ะแต่ผลเลือดก็ชัดเจนแล้วว่าไม่ท้องแต่ทำไมกินยาหมดแล้วแต่ประจำเดือนไม่มาแล้วเวลาฉี่ประมาณ 3วันที่ผ่านมามีฉี่ออกคล้ายๆสีแดงๆเหทือนเลืออดแต่ก็ไม่ใช่เกิดจากอะไรหรอค่ะ
|
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์(สูติ-นรีแพทย์) |
14 เมษายน 2562 06:26:48 #10 ในกรณีที่ทานยาฮอร์โมนแล้วรอบเดือนยังไม่มา คุณอาจจะต้องทำการตรวจปัสสาวะใหม่ เพื่อทดสอบการตั้งครรภ์อีกครั้งหนึ่ง ถ้าผลออกมาแล้วไม่พบการตั้งครรภ์ ให้กลับไปพบแพทย์เพื่อปรับเปลี่ยนยา แพทย์อาจจะต้องให้เป็นยาเม็ดคุมกำเนิดมารับประทานแทน เพื่อที่จะดูว่ารอบเดือนมาหนือไม่ ถ้ารอบเดือนยังไม่มาคงจะต้องหาสาเหตุต่อไปค่ะ เพราะถ้าไม่มีการตั้งครรภ์และรอบเดือนยังไม่มา น่าจะมีปัญหาในเรื่องของระบบฮอร์โมนในร่างกาย ของคุณค่ะ |
Anonymous