กระดานสุขภาพ

ปวดต้นขากับสะโพกข้างเดียวเวลาช่วงประจำเดือน และใกล้เป็นประจำเดือน
Sati*****1

3 มิถุนายน 2561 17:21:19 #1

สวัสดีคะ คือดิฉันมักจะมีอาการปวดต้นขา กับสะโพกด้านหลังบริเวณข้างซ้ายในช่วงประจำเดือนมา2อาทิตย์แล้วคะ มีตกขาวร่วมด้วยสีเหลืองอมเขียวคะ(ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์คะ) บางครั้งก็รู้สึกจี๊ดบริเวณท้องน้อยข้างซ้ายนิดหน่อยด้วยคะ ไปหาหมอ หมอให้ยามากิน หมอบอกคลำไม่เจออะไร แบบนี้มีโอกาสเป็นอะไรได้บ้างคะ ขอบคุณคะ
อายุ: 21 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 51 กก. ส่วนสูง: 170ซม. ดัชนีมวลกาย : 17.65 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
พญ.กิติพร กวียานนท์

แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว/เวชศาสตร์ทั่วไป

5 มิถุนายน 2561 12:23:24 #2

ตกขาว (Leucorrhea หรือ Leukorrhea) คือ สิ่งคัดหลั่งจากอวัยวะในอุ้งเชิงกรานไม่ว่าจะเป็นจากช่องคลอด ปากมดลูก หรือแม้กระทั่งจากตัวมดลูกเอง

ตกขาวอาจเป็นอาการปกติหรืออาการผิดปกติก็ได้ ลักษณะของตกขาวปกติคือตกขาวจะมีลักษณะเปลี่ยนแปลงตามรอบประจำเดือนโดยขึ้นกับปริมาณของฮอร์โมนเพศหญิงเอสโตรเจน (Estrogen) และโปรเจสเตโรน (Progesterone) จะมีลักษณะใสไม่มีสีหรือเป็นสีขาว ไม่มีกลิ่นเหม็น ปริมาณไม่มากและไม่ก่ออาการคัน

ตกขาวปกติจะพบมากได้ในช่วงกลางของรอบประจำเดือนหรือขณะตั้งครรภ์ และจะมีการหลั่งของเมือกในช่องคลอดมากขึ้นขณะมีเพศสัมพันธ์

ลักษณะของตกขาวที่ผิดปกติจะดูได้จาก

1 ปริมาณที่มากขึ้นจนทำให้บางครั้งต้องใช้ผ้าอนามัย

2 ลักษณะของสีที่ผิดปกติไปจากเดิมเช่น จากใสไม่มีสีหรือสีขาว เป็นสีเหลือง สีเขียว หรือเป็นลักษณะข้นจับตัวเป็นก้อน หรือมีลักษณะเป็นฟอง หรือเป็นมูกเลือด

3 มีกลิ่นที่เปลี่ยนไปจากเดิมเช่น มีกลิ่นเหม็นเหมือนปลาเน่าหรือมีกลิ่นคาวมาก

4 มีอาการผิดปกติอื่นๆร่วมด้วยเช่น มีอาการคันอวัยวะเพศ หรือบางครั้งมีอาการปัสสาวะแสบขัดร่วมด้วย หรือมีแผลในบริเวณอวัยวะเพศ

สาเหตุของตกขาวผิดปกติส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อในช่องคลอด และมักเป็นโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ ซึ่งที่พบบ่อยเกิดได้จาก

1 เชื้อรา

◦ ตั้งครรภ์

◦ เป็นโรคเบาหวาน

◦ เพิ่งใช้ยาปฏิชีวนะ

◦ ใช้ยากลุ่มสเตียรอยด์

◦ ใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด

◦ มีภูมิคุ้มกันต้านทานโรคในร่างกายต่ำ

◦ ติดเชื้อเอดส์ (โรคเอดส์)

2 หรือโรคเชื้อราในช่องคลอด โดยลักษณะที่เกิดขึ้นจะมีตกขาวที่ผิดปกติไปจากปกติ คือ สีเป็นสีขาวข้นคล้ายคราบนม มีอาการคันในช่องคลอด บางครั้งคันที่บริเวณแคมเล็กและแคมใหญ่ (อวัยวะเพศภายนอก) ด้วย ปัสสาวะแสบขัดบางครั้ง ตกขาวไม่มีกลิ่นเหม็น สามารถพบได้บ่อย แต่การติดเชื้อดังกล่าวจะเกิดขึ้นบ่อยในคนที่

3 เชื้อแบคทีเรีย ปริมาณตกขาวจะมากขึ้น มีกลิ่นเหม็นเหมือนปลาเน่า บางคนตกขาวมีกลิ่นหลังจากมีเพศสัมพันธ์ ลักษณะจะเป็นสีขาวขุ่น มักเกิดในสตรีที่มักสวนล้างช่องคลอดหรือกินยาปฏิชีวนะต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน

4 เชื้อโปรโตซัวหรือสัตว์เซลล์เดียว (Protozoa) ตกขาวจะมีปริมาณมากขึ้น สีเขียว มีฟองเกิดขึ้นซึ่งลักษณะของฟองที่เกิดขึ้นเป็นลักษณะเฉพาะของการติดเชื้อชนิดนี้ ตกขาวมีกลิ่นเหม็น ผู้ป่วยจะมีอาการปัสสาวะแสบขัดมากเมื่อเทียบกับการติดเชื้อรา การติดเชื้อดังกล่าวจะสัมพันธ์กับการมีเพศสัมพันธ์ ดังนั้นสามีหรือคู่นอนต้องรับการรักษาด้วยเสมอ

อนึ่ง นอกจากการติดเชื้อแล้ว ตกขาวผิดปกติยังอาจเกิดจากโรคมะเร็งได้ซึ่งพบได้น้อยกว่าจากการติดเชื้อ โรคมะเร็งที่มักก่ออาการตกขาวผิดปกติคือ โรคมะเร็งปากมดลูก

ในกรณีที่พบว่าหรือสงสัยว่าตกขาวผิดปกติ ควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจรับการรักษาต่อไป ไม่ควรรักษาตนเอง เพราะมีสาเหตุได้หลากหลาย รวมทั้งมักเกิดจากการติดเชื้อทางเพศ สัมพันธ์ที่แพทย์ต้องรักษาทั้งผู้ป่วยและคู่นอนควบคู่กันไป ซึ่งการซื้อยากินเองอาจเป็นสาเหตุให้กลายเป็นการติดเชื้อเรื้อรังจากเชื้อดื้อยา นอกจากนั้น สาเหตุตกขาวยังอาจเกิดจากโรคมะ เร็งปากมดลูกได้อีกด้วย การพบแพทย์ตั้งแต่แรกจะช่วยการวินิจฉัยโรคแต่เนิ่นๆ ซึ่งจะให้ผลการ รักษาที่ดีกว่าพบโรคในระยะรุนแรงที่มีอาการมากแล้ว

การป้องกันการกลับเป็นซ้ำของตกขาวจากการติดเชื้อนั้นมีวิธีการง่ายๆดังนี้

1 ไม่ใส่เสื้อผ้ารัดรูปหรือใส่ชุดอนามัยที่ไม่แห้งดี

2 ไม่ทำการสวนล้างช่องคลอด ล้างทำความสะอาดเพียงเฉพาะภายนอกเท่านั้น

3 หลังจากล้างทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ในการเช็ดทำความสะอาดอวัยวะเพศควรเช็ดจากด้านหน้าไปด้านหลัง ไม่เช็ดจากหลังมาหน้าเพราะอาจมีการปนเปื้อนของอุจจาระมาที่ช่องคลอดได้

4 หลีกเลี่ยงการมีคู่นอนหลายคน

5 เพื่อความปลอดภัยในการมีเพศสัมพันธ์ควรให้ฝ่ายชายใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง

6 เลี่ยงการใช้ยาปฏิชีวนะเกินความจำเป็น