กระดานสุขภาพ

อวัยวะเพศบวมแดง เจ็บเวลาเดินเวลานอนก็เจ็บนั่งหรือทำอะไรก็เจ็บเวลาปัจสวะก็มีอาการแสบค่ะ
Tan_*****_

10 พฤษภาคม 2561 04:04:15 #1

คือก่อนหน้านี้ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์มาปีกว่าแล้วคะเเต่เมื่อ4-5วันที่ผ่านมามีเพศสัมพันธ์หลังจากมีเพศสัมพันธ์ ก็รู้สึกเจ็บที่อวัยวะเพศหลังจากนั้นก็มีอาการไข้ขึ้นปวดหัวตัวร้อนละอวัยวะเพศบวมแดงเจ็บเเสบเวลาฉี่ก็เเสบค่ะละพอลองไปส่องดูมันเหมือนเป็นแผลที่มีหนองอ่ะคะเจ็บมากเวลาเดินนั่งนอนก็เจ็บ อยากทราบว่าอาการเหล่านี้มันเป็นโรคอะไรหรอคะไม่กล้าไปหาหมอมันอันตรายไหมนานไหมกว่าจะหาย
อายุ: 17 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 45 กก. ส่วนสูง: 164ซม. ดัชนีมวลกาย : 16.73 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

10 พฤษภาคม 2561 18:16:32 #2

จากอาการที่คุณบอกมาคุณน่าจะมีการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ค่ะ หรือเป็นโรคเริม ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อไวรัสเฮอร์ปีส์ซิมเพล็กซ์ ซึ่งไวรัสชนิดนี้มักจะเกิดจากการติดต่อทางเพศสัมพันธ์ จะทำให้เกิดรอยโรคในลักษณะ ช่วงแรกจะเป็นตุ่มน้ำใส เมื่อตุ่มน้ำแตกออกก็จะเห็นเป็นแผลคล้ายแผลร้อนใน ลักษณะก้นแผลจะสกปรก มีลักษณะคล้ายเป็นหนอง เมื่อไปสัมผัสหรือโดนน้ำหรือปัสสาวะจะมีอาการเจ็บแสบมาก คุณจะมีอาการเหมือนการติดเชื้อไวรัสทั่วไป คือมีไข้ปวดเมื่อยตามตัวรู้สึกไม่สุขสบาย การรักษานั้นจะต้องทานยาต้านเชื้อไวรัสกลุ่ม acyclovir ซึ่งมีทั้งชนิดรับประทานและทาที่บริเวณแผลภายนอก การทานยานั้นจะต้องทานนานประมาณ 5 ถึง 7 วันอาการจึงจะดีขึ้นได้ ในกรณีที่เคยเป็นโรคเริมแล้วจะมีโอกาสกลับเป็นซ้ำได้อีกถ้ามีการรับเชื้อเพิ่มหรือมีร่างกายที่ไม่แข็งแรงอ่อนเพลีย ก็จะทำให้เชื้อเริมกลับมาเป็นซ้ำใหม่ได้ แต่อาการจะไม่รุนแรงเท่าเป็นครั้งแรก ในกรณีที่คุณไม่แน่ใจว่าเป็นโรคเริมหรือไม่ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจให้ละเอียดจะได้รับการรักษาอย่างถูกต้องต่อไป ถ้ามีไข้ก็ให้รับประทานยาลดไข้แก้ปวดอาการจะดีขึ้นได้ภายใน 5 ถึง 7 วันค่ะ โรคนี้ถ้าไม่รักษาก็จะสามารถหายได้เองเช่นกันภายใน 7 วันถึง 10 วัน แต่การรักษาจะช่วยป้องกันการกลับเป็นซ้ำของโรคได้ดีมากกว่าค่ะ
________________________________________