ถ้าคุณได้มีการป้องกันการตั้งครรภ์เป็นอย่างดีก็น่าจะสบายใจได้ว่าไม่มีการตั้งครรภ์อย่างแน่นอนค่ะ การที่รอบเดือนไม่มา อาจจะเป็นผลมาจากการทำงานของรังไข่ที่ไม่ปกติ เช่น ภาวะไข่ไม่ตกหรือเป็นกลุ่มอาการของถุงน้ำที่รังไข่ที่เรียกว่า PCOS (polycystic ovarian syndrome) ภาวะนี้มันจะพบในสตรีที่มีน้ำหนักตัวมากหรือมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งจะทำให้ผิวรังไข่มีความหนาตัวมาก จนไข่ไม่สามารถตกได้ตามปกติ เมื่อไข่ไม่ตกก็จะไม่มีการสร้างฮอร์โมนโปรเจสโตรเจนมาทำให้ผนังเยื่อบุโพรงมดลูกสุก และหลุดลอกออกมาเป็นประจำเดือน ผนังเยื่อบุโพรงมดลูกจะมีความหนาตัวมากขึ้นด้วยเรื่อยๆ จนไม่มีประจำเดือนมาได้ การตรวจปัสสาวะเพื่อทดสอบการตั้งครรภ์นั้นจะแน่ใจได้ว่าไม่ตั้งครรภ์เมื่อได้ทำการตรวจหลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายไปแล้วประมาณ 3 สัปดาห์ ผลการตรวจจึงจะเชื่อถือได้ค่ะ ถ้าคุณได้รับประทานฮอร์โมนโปรเจสโตรเจนแล้ว รอบเดือนยังไม่มา ส่วนใหญ่แพทย์จะต้องให้ยาเม็ดคุมกำเนิดไปทานต่อเพื่อทดสอบว่ารังไข่ยังทำงานดีหรือไม่ ถ้าหลังทานยาคุมหมดแผงแล้วประจำเดือนยังไม่มาต้องหาสาเหตุต่อค่ะ ว่ามีสาเหตุจากอะไรจึงทำให้รอบเดือนไม่มา คุณจะต้องทานยาคุมกำเนิดให้หมดแผงห้ามหยุดยากลางคันค่ะ เพราะอาจจะทำให้เลือดออกผิดปกติได้ อาการปวดท้องน้อย ปวดหลัง อาจจะเกิดจากสาเหตุอื่น เช่น กล้ามเนื้ออักเสบ ส่วนอาการตกขาวผิดปกติอาจจะเกิดจากการติดเชื้อภายในช่องคลอด ซึ่งตอบไม่ได้ว่ามีสาเหตุมาจากสิ่งใด ถ้าอาการยังมากแนะนำว่าคุณควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจอย่างละเอียดอีกครั้งค่ะ โดยแพทย์จะทำการตรวจภายในเพื่อนำสิ่งคัดหลั่งในช่องคลอดไปตรวจว่ามีเชื้อใด จะได้รับการรักษาอย่างถูกต้องต่อไป ตอนนี้คุณควรทานยาคุมให้ผลหมดแผงอย่าหยุดยากลางคัน ถ้าต้องการมีบุตรแต่ยังไม่ตั้งครรภ์หรือประจำเดือนยังมาผิดปกติก็ค่อยปรึกษาแพทย์ต่อไปค่ะ
________________________________________