กระดานสุขภาพ

รักษากระเพาะปัสสาวะอักเสบในผู้หญิง
Cake*****0

6 เมษายน 2561 07:03:50 #1

อาการคือ ปัสสาวะแสบขัดตอนใกล้จะสุด ปัสสาวะมีกลิ่นเหม็น ปวดท้องน้อย ไม่มีเลือดปน ไม่มีไข้ รู้สึกระคายเคืองบริเวณปากช่องคลอด อาการจะเป็นแค่บางครั้งเท่านั้นค่ะ ไม่ใช่ทุกครั้งที่ปัสสาวะ เป็นมา 4 วันแล้วค่ะ มาวันนี้อาการดีขึ้นกลิ่นไม่มี แต่ยังรู้สึกแสบขัดเล็กน้อยในบางครั้งที่ฉี่

สาเหตุน่าจะเกิดจาก Honeymoon Cystitis เพราะหลังจากไม่ได้มีเพศสัมพันธ์มานานหลายปี แล้วพอมีก็เจ็บแสบมาก หลังจากนั้นเพียง 2 วันก็มีอาการของโรคนี้

อยากสอบถามคุณหมอดังนี้ค่ะ  จำเป็นจะต้องกินยาปฏิชีวนะเพื่อรักษาอย่างเดียวเลยใช่ไหมคะ (มีอาการคันช่องคลอดกว่าปกติด้วยค่ะ ไม่แน่ใจเพราะมีเชื้อราด้วยหรือเกิดจากกระเพาะปัสสาวะอักเสบหรือเปล่า)

หากรักษาด้วยตัวเองโดยที่ไม่ต้องกินยา กระเพาะปัสสาวะอักเสบจะหายเองได้หรือไม่คะ  

เพิ่มเติม ในช่วงที่เป็น ก็พยามรักษาตัวเองด้วยการดื่มน้ำเยอะๆ พักผ่อนมากกว่าเดิมอยู่ค่ะ แต่ผ่านมา 4-5 วันแล้วอาการยังทรงตัวอยู่ นานแค่ไหนถึงจะหายเป็นปกติ เลยอยากให้คุณหมอช่วยแนะนำทีว่าต้องทำอย่างไรบ้าง 

ขอบคุณค่ะ

อายุ: 27 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 47 กก. ส่วนสูง: 162ซม. ดัชนีมวลกาย : 17.91 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

29 เมษายน 2561 17:00:42 #2

ปกติแล้วอาการปวดท้องน้อยหลังจากมีเพศสัมพันธ์นั้นอาจเกิดขึ้นได้แต่อาจมีอาการเพียงแค่จุกๆ บริเวณท้องน้อยเท่านั้นครับและจะเป็นไม่นาน ดังนั้น หากถึงขนาดปวดท้องประกอบกับมีอาการปวดแสบบริเวณท้องน้อยลงมาถึงช่องคลอด ยิ่งหากมีอาการปัสสาวะแสบขัดร่วมด้วย อาการก็จะเข้าได้กับการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะครับ ซึ่งอาจเกิดได้หากช่วงที่มีเพศสัมพันธ์ที่อาจมีการถูหรือสัมผัสบริเวณท่อทางเดินปัสสาวะ ดังนั้น การล้างมือ และ ทำความสะอาดอวัยวะเพศทั้งผู้ชายและผู้หญิงก่อนและหลังการมีเพศสัมพันธ์จะช่วยลดอาการนี้ได้ ซึ่งการรักษานั้นควรจะได้รับยาปฎิชีวนะร่วมกับการดื่มน้ำบ่อยๆด้วยนะครับ เนื่องจากหากการติดเชื้อรุนแรงมากขึ้น หรือ เป็นบ่อยๆ อาจทำให้มีการติดเชื้อที่ท่อและกรวยไตได้ครับ และช่วงนี้ควรงดการมีเพศสัมพันธ์ก่อนนะครับ