จากประวัติที่คุณบอกมาคุณมีเพศสัมพันธ์ในช่วงวันที่ 20 ถึง 24 มกราคมโดยไม่ได้ป้องกันการตั้งครรภ์ จึงอาจจะมีความเสี่ยงในเรื่องของการตั้งครรภ์ได้ การทานยาคุมฉุกเฉินในวันที่ 21 มกราคมนั้น อาจจะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ โดยเฉพาะถ้าเกิดการตั้งครรภ์ช่วงก่อนหน้าวันที่ 21 มกราคม แต่หลังจากนั้นแล้ว ยาคุมอาจจะไม่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ อย่างไรก็ตาม คุณมีเลือดออกทางช่องคลอดวันที่ 28 มกราคม ซึ่งหมอคิดว่าน่าจะเป็นผลจากการทานยาคุมฉุกเฉินไม่ใช่ประจำเดือน หลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายไปแล้ว คุณได้ตรวจปัสสาวะเพื่อทดสอบการตั้งครรภ์ถึง 2 ครั้ง ไม่พบการตั้งครรภ์ ดังนั้น ผลการตรวจครั้งนี้จึงเชื่อถือได้ เพราะเป็นการตรวจหลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายไปแล้วเกิน 3 สัปดาห์ การทานยาคุมฉุกเฉินนั้น จะส่งผลทำให้มีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดและรอบเดือนถัดไปอาจจะมีความคลาดเคลื่อนได้ ในกรณีที่คุณไม่มีประจำเดือนมาและขาดหายไปนาน คุณสามารถรับประทานฮอร์โมนโปรเจสโตรเจนเพื่อให้รอบเดือนมาตามปกติได้ เข้าใจว่าคุณมีน้ำหนักตัวที่มาก ดังนั้น คุณจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะ pcos หรือกลุ่มอาการของถุงน้ำที่รังไข่ได้ ซึ่งภาวะนี้มักเกิดในสตรีที่มีน้ำหนักตัวมากผิวรังไข่จะมีความหนาตัวมากเนื่องจากมีชั้นไขมันไปพอกที่ผิวรังไข่มาก จึงทำให้ไข่ไม่สามารถตกได้ตามปกติ เมื่อไข่ไม่ตกก็จะทำให้ขาดการสร้างฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนซึ่งจะไปเปลี่ยนผนังเยื่อบุโพรงมดลูกให้สุกและหลุดลอกออกมาเป็นประจําเดือน ผนังเยื่อบุโพรงมดลูกจะมีความหนาตัวมากขึ้นด้วยเรื่อยๆ และเมื่อหนาถึงจุดหนึ่งก็อาจจะทำให้ มีเลือดออกผิดปกติกระปริดกระปรอยหรือรอบเดือนไม่มาตามปกติได้ ควรทานฮอร์โมนโปรเจสโตเจน เพื่อควบคุมให้รอบเดือนเป็นปกติค่ะ โดยรับประทานนาน 5 ถึง 7 วัน รอบเดือนก็จะมาได้ ถคุณสามารถปรึกษาเภสัชกรตามร้านขายยาเพื่อหาซื้อฮอร์โมนตัวนี้มารับประทานได้ค่ะ
________________________________________