กระดานสุขภาพ

เลือดสีดำคล้ำออก หลังจากกินยาคุมกำเนิด 21 เม็ด
Pook*****m

27 กุมภาพันธ์ 2561 02:16:55 #1

สวัสดีค่ะ

เนื่องจากเมื่อเดือนตุลาคม 2560 ได้หยุดทานยาคุมกำเนิดแบบ 21 เม็ด กะทันหัน ทำให้มีเลือดสีดำคล้ำออกมาสามสี่วัน จำนวนไม่มากค่ะ หลังจากนั้นก็ไม่ได้ทานเลย จนกระทั่งวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2561 ได้ทานยาคุมกำเนิดแบบ 21 เม็ด พร้อมกับวันแรกที่เป็นประจำเดือนค่ะ ประจำเดือนมาปกติ 7 วัน หลังจากประจำเดือนปกติหมดไป วันต่อมาก็มีเลือดสีดำคล้ำออกมา จนถึงวันนี้ ก็เป็นเวลากว่า 2 สัปดาห์แล้ว เลือดยังไม่หยุด ออกมาในปริมาณที่ไม่มาก แต่ออกทุกวัน จนตอนนี้ยาคุมกำเนิดได้หมดแผงแรกแล้ว แต่เลือดก็ยังคงออกมาต่อ 2 วันแล้ว ไม่ทราบว่า มีโอกาสที่มันจะหยุดเองและกลับมาเป็นปกติมั้ยคะ

ขอบคุณค่ะ

อายุ: 23 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 49 กก. ส่วนสูง: 158ซม. ดัชนีมวลกาย : 19.63 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

28 กุมภาพันธ์ 2561 00:08:22 #2

การที่คุณมีเลือดออกผิดปกติในระหว่างรับประทานยาคุมกำเนิด อาจจะเป็นเพราะคุณทานยาคุมกำเนิดชนิดที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำในขนาด 15-20 ไมโครกรัม ซึ่งจะทำให้เกิดอาการเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดได้ ถ้าคุณมั่นใจว่าไม่เคยลืมทานยาเลย ก็ควรปรับเปลี่ยนยาเป็นชนิดที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงขึ้นเป็น 30 ถึง 35 ไมโครกรัม จะช่วยลดอาการเลือดออกผิดปกติได้ นอกจากนี้ อาการเลือดออกผิดปกติอาจจะเกิดจากการมีติ่งเนื้อผิดปกติที่บริเวณปากมดลูก ที่ทางการแพทย์เรียกว่า polyp ซึ่งคุณควรจะต้องมาพบแพทย์เพื่อรับการตรวจภายใน เพื่อการวินิจฉัยภาวะนี้ ถ้าพบติ่งเนื้อดังกล่าวการเด็ดติ่งเนื้อออกก็จะช่วยในการรักษาภาวะเลือดออกผิดปกติได้ค่ะ ________________________________________