ในกรณีที่คุณไม่มีประจำเดือนมาตามปกติและขาดหายไปนานประมาณ 13 วันแล้ว เลือดที่ออกก็น่าจะเป็นเลือดที่ออกมาจากส่วนของผนังเยื่อบุโพรงมดลูกด้านใน ซึ่งจะเห็นเป็นลักษณะก้อนเลือดสีน้ำตาลเข้มปนแดงออกมาได้ สาเหตุก็น่าจะเกิดจากการทำงานของรังไข่ที่ไม่ปกติ เช่น ภาวะไข่ไม่ตก หรือมีภาวะกลุ่มอาการของถุงน้ำที่รังไข่ที่เรียกว่าพีซีโอเอส Polycystic ovarian syndrome ภาวะนี้จะพบในสตรีที่มีน้ำหนักตัวมาก ผิวรังไข่จึงมีความหนาตัวมากไปด้วย เพราะมีชั้นไขมันมาพอกเอาไว้ ทำให้การตกไข่ไม่ปกติ เมื่อไข่ไม่ตกก็จะไม่มีการสร้างฮอร์โมนโปรเจสโตรเจนมาทำให้ผนังเยื่อบุโพรงมดลูกสุกและหลุดลอกออกมาเป็นประจำเดือน ผนังเยื่อบุโพรงมดลูกจะมีความหนาตัวมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อหนาถึงจุดหนึ่งก็จะทำให้มีเลือดออกผิดปกติได้ ในกรณีที่มีเลือดออกผิดปกตินานเกิน 7 วัน หรือออกมาลักษณะกระปริดกระปรอย เป็นๆ หายๆ ควรรับประทานฮอร์โมนเพื่อควบคุมให้รอบเดือนเป็นปกติค่ะ โดยทานฮอร์โมนโปรเจสโตรเจน นานประมาณ 7-10 วัน รอบเดือนก็จะเป็นปกติได้ แต่ถ้าไม่แน่ใจ ก็อาจจะมาพบแพทย์เพื่อรับการตรวจภายในและอัลตราซาวด์เพื่อประเมินความผิดปกติดังกล่าวค่ะ จะได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้องต่อไป
________________________________________

แล้วถ้าจะทานฮอร์โมนโปรเจสโตรเจนนี้ต้องทานยาคุมกำเนิดใช่มั้ยคะ 

ฮอร์โมนโปรเจสโตเจนไม่ใช่ยาคุมกำเนิดค่ะ ยาคุมกำเนิดจะประกอบไปด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนเช่นอยู่ด้วยกัน ตาฮอร์โมนโปรเจสโตเจน จะเป็นชนิดฮอร์โมนเดี่ยว ให้รับประทานนานประมาณ 7-10 วันหรืออาจจะ 10 ถึง 12 วันเพื่อควบคุมให้รอบเดือนเป็นปกติ หลังทานยาไป 2 3 วันเลือดจะหยุด แต่จะต้องทานยาจนหมดเมื่อยาหมดไป 2-3 วันรอบเดือนก็จะมาได้เองตามปกติค่ะ
________________________________________