กระดานสุขภาพ
เจ็บปากมดลูก | |
---|---|
31 มกราคม 2561 04:19:33 #1 เจ็บบริเวณรอบปากมดลูก ปากมดลูกบวมแดง มีตกขาวเยอะมากสีเหลืองเขียว มีน้ำขุ่นๆออกมา |
|
อายุ: 22 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 51 กก. ส่วนสูง: 165ซม. ดัชนีมวลกาย : 18.73 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล(สูติ-นรีแพทย์) |
1 กุมภาพันธ์ 2561 17:57:59 #2 ในเรื่องของอาการตกขาวที่มากขึ้นนั้น ปกติแล้ว ในช่วงหลังกลางรอบเดือนจนถึงก่อนจะมีประจำเดือนรอบถัดไป หรือหลัง มีเพศสัมพันธ์อาจมีสารคัดหลั่งที่มากขึ้นได้นะครับ หากไม่มีอาการผิดปกติใด เช่น ตกขาวสีเขียวหรือเหลือง กลิ่นเหม็น หรือปวดท้องน้อย ก็ไม่ต้องกังวลครับ สามารถสังเกตอาการไปได้ก่อนครับ ส่วนหากตกขาวนั้น หากตกขาวผิดปกติที่เป็นลักษณะสีขาวเหลือง คล้ายทิชชูเปียกหรือ นมโยเกิตร่วมด้วย และ มีอาการคันเป็นหลักนั้น จะเป็นอาการของการติดเชื้อราในช่องคลอดครับ และในบางท่านอาจมีอาการคันบริเวณปากช่องคลอดร่วมด้วย ซึ่งลักษณะรอยโรคอาจเป็นผื่นสีออกชมพูหรือแดงๆ ขอบเขตชัดเจน มักเป็นสองข้างของปากช่องคลอดและผิวหนังระหว่างขาก็ได้ การรักษาหลักนั้น หากมีอาการภายในช่องคลอด ยาที่ใช้โดยทั่วไปเป็นมาตรฐานจะเป็นยาในช่ือสามัญ clotrimazole ครับ เป็นลักษณะเม็ด ใช้เหน็บช่องคลอด เป็นเวลา 7 วันนะครับ หากมีอาการภายนอกด้วย ก็อาจลองใช้ยาที่มีช่ือสามัญ clotrimazole ชนิดทา ทาก็ได้ครับ ที่สำคัญ ต้องทาบริเวณที่เป็นรอยโรค โดยเฉพาะอย่างย่ิง ที่ขอบ เพราะเชื้อราจะอยู่บริเวณนี้มากๆ และ เป็นบริเวณที่แบ่งตัว ลามต่อไปครับ ทาจนอาการดีชึ้นจนหาย และ ทาต่อประมาณ 1-2 สัปดาห์ด้วยนะครับ ไม่เช่นนั้น จะเป็นซ้ำได้ง่าย และในช่วงที่มีประจำเดือน อาจเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยขึ้นเพื่อลดความอับชื้นนะครับ งดเพศสัมพันธ์ก่อนนะครับ ส่วนหากมีลักษณะกลิ่นเหม็น หรือ คันมาก ตกขาวเป็นสีเขียวเหลืองจะเป็นอาการแสดงของการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอดนะครับ ดังนั้น หมอแนะนำหากตกขาวยังคงผิดปกติอยู่ ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจภายใน หาสาเหตุและรักษาอย่างถูกวิธีนะครับ ส่วนที่กล่าวมาหมอไม่แน่ในว่าทราบได้อย่างไรว่าปากมดลูกบวมแดง เนื่องจากปากมดลูกนั้นอยู่ด้านในช่องคลอด อาจมองไม่เห็นถ้าไม่ได้ใส่เครื่องมือช่วยนะครับ แต่อย่างไรก็ตาม จากประวัติควรมาพบแพทย์นะครับ เพราะอาจเป็นการติดเชื้อในอุ้งเชิงกรานได้ (PID pelvic inflammatory disease) ซึ่งจำเป็นต้องได้รับยาปฎิชีวนะครับ |
Anonymous