กระดานสุขภาพ
จะตั้งครรภ์ไหมครับ | |
---|---|
18 ธันวาคม 2560 15:13:12 #1 พอดีว่าผมได้มีอะไรกับแฟนโดยที่ เอาอวัยวะเพศถูกันไม่นานนะครับ ของผมมีน้ำหล่อลื่นพอสมควร อาจทำให้น้ำหล่อลื่นติดอวัยวะเพศแฟน แล้วหลังจากนั้นผมได้ใช้นิวของผมสอดเข้าไปครับ ผมจึงกังวลอยากปรึกษาคุณหมอครับว่ามีโอกาสตั้งครรภ์สูงไหมครับ ขอบคุณมากครับ |
|
อายุ: 18 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 68 กก. ส่วนสูง: 167ซม. ดัชนีมวลกาย : 24.38 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
Anonymous |
18 ธันวาคม 2560 15:14:13 #2
หลังจากถูกันแล้วผมใช้นิ้วของผมสอดเข้าออกบริเวณอวัยวะเพศแฟนครับ
|
Anonymous |
19 ธันวาคม 2560 14:05:58 #3
อัพเดทหน่อยครับตอนนี้มีประจำเดือนแล้วครับ
|
Oshi*****u |
19 ธันวาคม 2560 19:04:23 #4 หากการมีเพศสัมพันธ์นั้น ไม่มีการสอดใส่อวัยวะเพศ มีเพียงการถูกันเพียงภายนอกเท่านั้น ในกรณีนี้ถือว่า ไม่มีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้เลยครับ เช่นเดียวกับอสุจิที่อยู่บริเวณภายนอกช่องคลอด ก็ไม่ทำให้ตั้งครรภ์เช่นเดียวกันครับ สบายใจได้ ส่วนในเรื่องการสอดใส่นิ้วที่อาจมีอสุจิปนไปและใส่เข้าไปในช่องคลอดด้วยนั้น หากหมอตอบตามทฤษฎีแล้ว ในกรณีดังกล่าวก็สามารถทำให้มีการตั้งครรภ์ได้ แต่ในแง่ของหลักฐานทางการแพทย์นั้น ไม่เคยปรากฎมีการตั้งครรภ์จากลักษณะที่กล่าวมานะครับ อ่านได้ที่ http://haamor.com/webboard/ห้องเพศศึกษา/38314/ ยาคุมฉุกเฉินคือฮอร์โมนโปรเจสโตรเจนในขนาดสูง หลังทานยา ยาจะไปออกฤทธิ์ที่บริเวณผนังเยื่อบุโพรงมดลูกทำให้มีความไม่เหมาะต่อการฝังตัวของตัวอ่อนและทำให้เกิดการลอกหลุดของผนังเยื่อบุโพรงมดลูกออกมาเป็นประจำเดือนหรือเป็นเลือดที่ออกผิดปกติทางช่องคลอด อย่างไรก็ตาม ไม่เสมอไปที่สตรีที่ทานยาทุกคนจะต้องมีเลือดออกผิดปกติบางรายก็อาจจะไม่มีเลือดออกมาก็ได้และอาจจะทำให้รอบเดือนถัดไปมีความคลาดเคลื่อนได้เช่นกัน ดังนั้น จึงไม่สามารถยืนยันได้ว่าถ้ารอบเดือนไม่มาหรือไม่มีเลือดออกผิดปกติใน 7 วันจะต้องมีการตั้งครรภ์ ในกรณีที่คุณทานยาอย่างถูกวิธีก็ขอยืนยันว่าไม่ควรตั้งครรภ์ ทั้งนี้ จะต้องไม่มีการใช้ยาคุมฉุกเฉินบ่อยครั้งเกินไปด้วย เช่น ใช้เกิน 1 หรือ 2 ครั้งต่อเดือน เพราะจะมีความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้ โดยเฉพาะการตั้งครรภ์นอกมดลูก คุณสามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติไม่มีข้อห้ามในการกินแต่อย่างใด ในกรณีที่เกิดอาการไม่สบายหลังจากทานยาคุมฉุกเฉินคุณสามารถรักษาร่างกายได้ตามปกติ เพราะไม่ได้ทำให้ประสิทธิภาพในการทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินลดลงไป ในกรณีที่คุณไม่มั่นใจเรื่องการตั้งครรภ์ก็สามารถตรวจปัสสาวะเพื่อทดสอบการตั้งครรภ์ได้หลังจากมีเพศสัมพันครั้งสุดท้ายไปแล้วนาน 3 สัปดาห์หรือ 21 วันเพราะจะเป็นช่วงที่สามารถตรวจการตั้งครรภ์ได้แน่นอนที่สุดด้วยการตรวจปัสสาวะ โดยปกติแล้วอสุจิจะมีชีวิตอยู่ได้เพียง 1 วันในช่องคลอดและไข่จะอยู่ได้ประมาณ 2 วัน หมอคิดว่าได้ตอบคำถามคุณหมดแล้วในเรื่องของการออกฤทธิ์ของยาคุมฉุกเฉิน และอายุของอสุจิและไข่ ถ้าคุณไม่เข้าใจก็ค่อยสอบถามมาใหม่ค่ะ อ่านได้ที่ http://haamor.com/webboard/ห้องเพศศึกษา/38577/ |
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล(สูติ-นรีแพทย์) |
20 ธันวาคม 2560 08:52:47 #5 หากการมีเพศสัมพันธ์นั้น ไม่มีการสอดใส่อวัยวะเพศ มีเพียงการถูกันเพียงภายนอกเท่านั้น ในกรณีนี้ถือว่า ไม่มีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้เลยครับ เช่นเดียวกับอสุจิที่อยู่บริเวณภายนอกช่องคลอด ก็ไม่ทำให้ตั้งครรภ์เช่นเดียวกันครับ สบายใจได้ ส่วนในเรื่องการสอดใส่นิ้วที่อาจมีอสุจิปนไปและใส่เข้าไปในช่องคลอดด้วยนั้น หากหมอตอบตามทฤษฎีแล้ว ในกรณีดังกล่าวก็สามารถทำให้มีการตั้งครรภ์ได้ แต่ในแง่ของหลักฐานทางการแพทย์นั้น ไม่เคยปรากฎมีการตั้งครรภ์จากลักษณะที่กล่าวมานะครับ และไม่จำเป็นต้องทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินครับ ซึ่งหมอขอแนะนำการคุมกำเนิดสักนิดนะครับ หากครั้งต่อๆไปมีเพศสัมพันธ์ที่อาจมีการสอดใส่อวัยวะเพศ ซึ่งการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพ คือ การป้องกันก่อนการมีเพศสัมพันธ์นะครับ เช่น ถุงยางอนามัย และ ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือน เป็นต้นครับ และ เรื่องถุงยางอนามัยที่มีปัญหานั้น โดยปกติแล้วกระบวนการผลิตถุงยางอนามัยนั้น ค่อนข้างรัดกุมมากนะครับ การที่จะขาด รั่ว หรือ ปริแตกนั้นเกิดได้น้อยมากแต่หากเกิดมักเกิดจากการใช้ที่ผิดวิธีครับ ซึ่งการใช้ถุงยางอนามัยที่ถูกต้องนั้น มีหลักการง่ายๆ ดังนี้ คือ ดูวันเดือนปีที่หมดอายุ เลือกขนาดให้เหมาะสม ไม่หลวมหรือแน่นเกินไป การฉีกออกจากซองควรดันให้ถุงยางไปอีกด้านหนึ่งเสียก่อน และ ไม่ใช้กรรไกรหรือของมีคมตัด ใส่ถุงยางในขณะที่อวัยวะเพศแข็งตัวเต็มที่ โดยบีบปลายถุงเพื่อไล่ลมออกก่อน ซึ่งการไล่ลมจะช่วยไม่ให้ถุงยางแตกและหลุดง่ายขณะทำการสอดใส่อวัยวะเพศ ไม่จำเป็นต้องใช้สารหล่อลื่น และ ไม่ควรใช้วาสลีนมาหล่อลื่น เพราะจะทำให้ถุงยางแตกได้ง่ายขึ้น และการใช้ถุงยางอนามัยซ้อนกันมากกว่า 1 ชั้นชึ้นไปนั้น นอกจากจะไม่ช่วยให้ป้องกันมากขึ้นแล้ว ยังทำให้ถุงยางมีโอกาสที่จะขาดและปริแตกง่ายขึ้นด้วยจากการเสียดสีกันเองของถุงยางอนามัยครับ เมื่อต้องการจะถอดถุงยางออก ควรรูดถุงยางจากส่วนโคนลงมาในช่วงที่อวัยวะเพศแข็งตัวอยู่ โดยอาจใช้ทิชชูพันรอบ และ ทำความสะอาดตามปกติครับ หากปฎิบัติตามนี้ ก็สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ โดยจะหลั่งในหรือนอกก็ได้นะครับ ส่วนในฝ่ายหญิงหากต้องการคุมกำเนิดด้วย หมอแนะนำให้ทานยาเม็ดคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือนนะครับ ซึ่งในเรื่องของยาเม็ดคุมกำเนิด ไม่ว่าจะเป็นแบบ 21 เม็ด หรือ 28 เม็ด ก็มีวิธีการใช้เหมือนกันครับ คือ เร่ิมทานเม็ดแรกของแผงภายใน 5 วัน นับจากประจำเดือนมาวันแรก ทานช่วงเวลาไหนก็ได้ ขอให้เป็นเวลาเดิม และ เป็นเวลาที่คาดว่าจะไม่ลืมทาน ซึ่งหากเริ่มทานได้ดังนี้ ก็สามารถมีเพศสัมพันธ์ช่วงใดก็ได้ จะหลั่งด้านในหรือนอกก็ได้ครับ หากทานแบบ 28 เม็ด ก็ให้ทานต่อแผงไปเรื่อยๆ ซึ่งประจำเดือนจะมาช่วง 7 เม็ดสุดท้ายของแต่ละแผง ส่วนหากทานแบบ 21 เม็ด ก็ให้เว้น 7 วัน และเริ่มแผงใหม่ได้เลย โดยระหว่างที่เว้นนี้ จะเป็นช่วงที่ประจำเดือนมาครับ หากมีการลืมทาน หากลืมเพียง 1 เม็ดก็ไห้ทานเมื่อนึกขึ้นได้ และหากลืมทาน 2 เม็ด ก็ไห้ทานวันที่นึกขึ้นได้พร้อมกับเม็ดที่ต้องทานในว้นนั้นๆไปรวมเป็นสองวันติดกัน แต่หากลืมทาน 2 เม็ด ในช่วงที่เลยกลางรอบเดือนไปแล้ว หรือ มากกว่า 3 เม็ดขึ้นไป ก็ให้คุมกำเนิดวิธีอื่นๆด้วย เช่น ใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยครับ |
Anonymous