กระดานสุขภาพ

หยุดทานยาสตรี แล้วประจำเดือนไม่มา
Anonymous

17 ธันวาคม 2560 03:16:48 #1

เดือนที่แล้วประจำเดือนมาวันที่ 16 และได้ทานยาสตรีแบบแคปซูล เนื่องจากมีอาการปวดท้องบ่อยๆ ที่บ้านเลยให้ลองทานดู และเภสัชกรแนะนำค่ะ ปกติประจำเดือนมา 7-10 วันค่ะ ก็ทานยามาเรื่อยๆ จนหมดสองแผงกินได้ สองอาทิตย์ ก็หยุดกินไปประมาณ 2 อาทิตย์กว่าๆ เพราะไม่ได้ซื้อ ปกติประจำเดือนจะต้องมาแล้ว ตอนนี้ก็มีอาการเหมือนประจำเดือนจะมาแต่ยังไม่มา เกินกำหนดไปประมาณ 2 วันค่ะ เลยอยากทราบว่าเป็นเรื่องปกติหรือไม่ค่ะ (ส่วนเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ มีก่อนประจำเดือนรอบก่อนมา 2 อาทิตย์ และป้องกันโดยถุงยางค่ะ)
อายุ: 26 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 44 กก. ส่วนสูง: 158ซม. ดัชนีมวลกาย : 17.63 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

17 ธันวาคม 2560 13:40:44 #2

ถ้าคุณมีการป้องกันการตั้งครรภ์เป็นอย่างดีก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการตั้งครรภ์ รอบเดือนที่ปกติจะมาได้ทุก 21 ถึง 35 วันต่อครั้ง ครั้งละไม่เกิน 7 วันและมีปริมาณไม่มากเกินไป อาจจะมีความคลาดเคลื่อนเล็กน้อย เนื่องจากการตกไข่ที่ไม่สม่ำเสมอ แต่ถ้ารอบเดือนขาดหายไปนานก็ถือว่าผิดปกติ การที่รอบเดือนไม่มาตามปกติอาจจะมีสาเหตุมาจากการทำงานของรังไข่ที่ไม่ปกติ เช่น ภาวะไข่ไม่ตกหรือเป็นกลุ่มอาการของถุงน้ำที่รังไข่ หมอไม่ทราบคุณสมบัติที่แน่นอนของยาสตรีที่คุณรับประทานแต่ถ้ารอบเดือนยังไม่มาตามปกติและมั่นใจว่าไม่ตั้งครรภ์ก็สามารถทานฮอร์โมนโปรเจสโตเจนเพื่อให้รอบเดือนมาได้ค่ะ โดยสามารถปรึกษาเภสัชกรตามร้านขายยาหรือไปพบแพทย์เพื่อรับฮอร์โมนมาทานเพื่อให้รอบเดือนมาค่ะ