ถ้าคุณมีการป้องกันการตั้งครรภ์เป็นอย่างดีโดยการสวมใส่ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ ก็ไม่มีการตั้งครรภ์อย่างแน่นอนค่ะ การตรวจปัสสาวะเพื่อทดสอบการตั้งครรภ์หลังจากที่มีถุงยางค่ะ ควรตรวจ มื่อเวลาผ่านไป 3 สัปดาห์หลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้าย ผลจึงจะเชื่อถือได้ค่ะ การที่แฟนคุณมีรอบเดือนขาดหายไปไม่มาตามปกติน่าจะมีสาเหตุมาจากการทำงานของรังไข่ที่ไม่ปกติ ซึ่งอาจจะเกิดจากน้ำหนักตัวที่ขึ้นเร็วมากและมีความเครียดร่วมด้วยก็ได้ การที่น้ำหนักตัวขึ้นมากก็จะทำให้ผิวรังไข่มีความหนาตัวมากตามไปด้วย จะส่งผลกระทบต่อการตกไข่ทำให้ไข่ไม่สามารถตกได้ เมื่อไข่ไม่ตกก็จะไม่มีการสร้างฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนมาทำให้ผนังเยื่อบุโพรงมดลูกสุกและหลุดลอกออกมาเป็นประจำเดือน ผนังเยื่อบุโพรงมดลูกจะหนาตัวไปเรื่อยๆ แต่เมื่อหนาถึงจุดหนึ่งก็อาจจะทำให้มีเลือดออกผิดปกติได้เช่นกัน ดังนั้น ถ้ามั่นใจว่าไม่มีการตั้งครรภ์แน่นอน ก็สามารถหาซื้อฮอร์โมนโปรเจสโตเจนมารับประทานได้เพื่อให้รอบเดือนมาโดยทานประมาณ 7-10 วันรอบเดือนก็จะมาได้ตามปกติค่ะ และก็จะต้องควบคุมน้ำหนักตัวไม่ให้ขึ้นเร็วเกินไปด้วยค่ะ แต่ถ้าไม่แน่ใจก็มาพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาต่อไปได้ค่ะ

ขอบคุณครับคุณหมอ แล้วที่ตรวจขึ้น1ขีด เชื่อถือได้ไหมครับ จำเป็นต้องตรวจซ้ำไหมครับ และที่ถุงยางขาดแต่ไม่มีการหลั่ง น่าระแวงไหมครับ แฟนผมเขาบอกว่าเขาจะไม่กินยาอะไรทั้งนั้นอะครับเพราะเขาบอกว่าที่ประจำเดือนเขามาไม่ปกติแบบนี้ก็เป็นเพราะผมให้เขากินยาคุมฉุกเฉินทั้งๆที่ไม่มีอะไรเลย ถ้าไม่กิน ประจำเดือนจะมาปกติได้ไหมครับ รบกวนอีกรอบครับคุณหมอ

ถ้าเป็นการตรวจปัสสาวะทดสอบการตั้งครรภ์หลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายไปนาน 3 สัปดาห์ ผลจะเชื่อถือได้ค่ะ แต่ถ้าเป็นการตรวจในระยะเวลา ก่อนหน้านี้ผลลอาจจะเชื่อถือไม่ได้เพราะยังไม่มีฮอร์โมนหลั่งออกมามากพอที่จะตรวจพบ การที่ถุงยางอนามัยฉีกขาดแต่ยังไม่มีการหลั่ง ก็ไม่ควรตั้งครรภ์ แต่ถ้ามีการหลั่งมาก่อนหน้านี้ที่จะมามีเพศสัมพันธ์ก็อาจจะมีความเสี่ยงได้ การที่รอบเดือนมาไม่ปกติน่าจะมีสาเหตุมาจากการทำงานของรังไข่ที่ไม่ปกติด้วย ควรให้แฟนไปรับการตรวจดูมดลูกและรังไข่ว่ามีภาวะผิดปกติหรือเป็นกลุ่มอาการถุงน้ำที่รังไข่ด้วยหรือไม่ เพราะว่าภาวะนี้ควรจะต้องได้รับการวินิจฉัยและรักษาด้วยค่ะ