ส่วนใหญ่ อาการบวมปวด บริเวณอวัยวะเพศนั้น อาจมีสาเหตุหลากหลายประการ เช่น อาจมาจากการติดเชื้อได้นะครับ แต่หากไม่เคยมีเพศสัมพันธ์เลย ก็มักจะเป็นการอักเสบเล็กๆน้อยๆ เช่น เชื้อรานะครับ ซึ่งมักจะมีอาการคัน หรือ มีตกขาวออกมาเป็นลักษณะสีเหลือง อาจคล้ายทิชชูหรือแป้งเปียกได้ครับ และอาจมีอาการคันบริเวณปากช่องคลอดร่วมด้วย ซึ่งลักษณะรอยโรคอาจเป็นผื่นสีออกชมพูหรือแดงๆ ขอบเขตชัดเจน มักเป็นสองข้างของปากช่องคลอดและผิวหนังระหว่างขาก็ได้ การรักษาหลักนั้น หากมีอาการภายในช่องคลอด ยาที่ใช้โดยทั่วไปเป็นมาตรฐานจะเป็นยาในช่ือสามัญ clotrimazole ครับ เป็นลักษณะเม็ด ใช้เหน็บช่องคลอด เป็นเวลา 7 วันนะครับ หากมีอาการภายนอกด้วย ก็อาจลองใช้ยาที่มีช่ือสามัญ clotrimazole ชนิดทา ทาก็ได้ครับ ที่สำคัญ ต้องทาบริเวณที่เป็นรอยโรค โดยเฉพาะอย่างย่ิง ที่ขอบ เพราะเชื้อราจะอยู่บริเวณนี้มากๆ และ เป็นบริเวณที่แบ่งตัว ลามต่อไปครับ ทาจนอาการดีชึ้นจนหาย และ ทาต่อประมาณ 1-2 สัปดาห์ด้วยนะครับ ไม่เช่นนั้น จะเป็นซ้ำได้ง่าย และในช่วงที่มีประจำเดือน อาจเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยขึ้นเพื่อลดความอับชื้นนะครับ ส่วนสาเหตุอื่นๆ ที่อาจเป็นได้ ได้แก่ การอักเสบต่อมไขมันต่างๆครับ เช่น บาร์โธลินซีสต์ (Bartholin cyst) หรือ หากมีอาการ กดเจ็บ แดง ร้อน ร่วมด้วยอาจเป็นการอักเสบหรือเป็นหนอง (Bartholin abscess) ได้ครับ ดังนั้น หากยังมีอาการปวดมากอยู่ บวมขึ้น แดงร้อนหรือมีไข้ ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจภายใน หาสาเหตุและรักษาอย่างถูกวิธีนะครับ