อีกอย่างคือจะมีโอกาสเป็นโรคมั้ยครับ ถ้ามีควรทำอย่างไรถึงจะสะดวกที่สุดครับ

ถ้าคุณได้ทานยาคุมฉุกเฉินไปแล้ว และทานอย่างถูกวิธีตามที่ได้บอกมา ก็ไม่ควรตั้งครรภ์ยาจะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้แน่นอนค่ะ และไม่ควรใช้ยาคุมฉุกเฉินเกิน 1 ถึง 2 ครั้งต่อเดือน หลังทานยาคุมฉุกเฉินอาจจะมีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดและรอบเดือนถัดไปมีความคลาดเคลื่อนได้ การที่จะตรวจว่ามีการตั้งครรภ์หรือไม่จะสามารถทำได้หลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายไปแล้วนาน 3 สัปดาห์ โดยสามารถตรวจปัสสาวะเพื่อทดสอบการตั้งครรภ์ได้ค่ะ

ขอบคุณมากครับ แล้วเราจะมีโอกาสติดโรคมั้ยครับ จะตรวจและป้องกันโรคได้ยังไงครับ โดยที่ไม่ต้องเข้าพบแพทย์ พอจะมีวิธีมั้ยครับ รบกวนอีกครั้งนะครับ

ถ้าแฟนคุณมีการติดเชื้อภายในช่องคลอด คุณก็มีโอกาสติดเชื้อได้เช่นกันค่ะถ้าไม่ได้สวมถุงยางอนามัย การสวมถุงยางอนามัยจะเป็นวิธีที่ดีในการป้องกันการติดโรคทางเพศสัมพันธ์เช่นโรคหูดโรคเริม หนองใน เชื้อราหรือโรคติดเชื้ออื่นๆเป็นต้น เราไม่สามารถตรวจได้เองถ้าสงสัยว่าจะมีการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์หรือเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ คุณจะต้องไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจเลือดหรือนำสิ่งคัดหลั่งบริเวณปลายอวัยวะเพศไปตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์หรือไปเพาะเชื้อ หรือใช้การตรวจววิธีหรือเทคนิคพิเศษต่างๆ จะได้ทราบว่ามีการติดเชื้ออื่นใดหรือไม่ค่ะ โดยคุณจะมีอาการแสดงให้เห็น เช่น มีสิ่งคัดหลั่งออกมาผิดปกติ มีอาการต่อมน้ำเหลืองโต มีรอยโรคหรือแผลที่บริเวณอวัยวะเพศ มีผื่นขึ้นตามตัว เป็นต้นค่ะ

ไม่สามารถตอบได้ ถ้าคุณยังมีร่างกายแข็งแรงดี โอกาสที่จะติดเชื้อก็จะน้อยมากค่ะ

ขอบคุณมากครับคุณหมอ  ถามอย่างสุดท้ายแล้วครับ สำหรับคนที่กินยาคุมฉุกเฉินอย่างถูกวิธีแต่ยังเกิดการตั้งครรภ์ เกิดจากสาเหตุอะไรครับ อะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดการตั้งท้องทั้งๆที่กินยาคุมฉุกเฉินถูกต้องครับ

การตั้งครรภ์ที่เกิดขึ้นในคนที่ใช้ยาคุมฉุกเฉินอย่างถูกวิธีอาจจะเป็นเพราะใช้ยาคุมบ่อยครั้งเกินไปเช่นใช้เกิน 1 ถึง 2 ครั้งต่อเดือนซึ่งประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดก็จะลดลงและจะเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ที่ผิดปกติมากขึ้นเช่นการตั้งครรภ์นอกมดลูกเพราะยาคุมกำเนิดจะ ทำให้การเคลื่อนไหวของท่อนำไข่ช้าลงจึงเกิดการปฏิสนธิและมีการฝังตัวที่ท่อนำไข่ได้ค่ะ

ขอบคุณที่ให้ความรู้และการช่วยเหลือนะครับ ไม่รู้ว่าหมอเหนื่อยกับการตอบคำถามหรือเปล่า  แต่สิ่งที่หมอทำเป็นคุณค่าต่อผู้คนมากๆ  ยังไงก็สู้ๆนะครับ